บิ๊กจิ๋วลั่นพร้อมเป็นนายกฯ ปชป.เหน็บไหว้พระยังต้องพยุง

สุเทพ  ฟันธง"จิ๋ว"รีเทิร์นนายกฯยาก

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ บอกว่า เป็นเรื่องยาก ที่ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย จะกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งในการเลือกตั้งครั้งต่อไป ตามที่แกนนำพรรคเพื่อไทย ประกาศสนับสนุนระหว่างทำบุญย้ายที่ทำการพรรคใหม่ เมื่อวันที่ 19 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยนายสุเทพให้สัมภาษณ์ ที่ทำเนียบรัฐบาล

เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม ว่า " ยาก ผมกราบเรียนด้วยเคารพว่ายาก คำว่ายากมีหลายอย่าง เช่น ท่านพูดก็ฟังยากอยู่แล้ว ทำอะไรก็เข้าใจยาก คนจะสนับสนุนท่านก็ยาก ยากครับผมตอบว่ายาก ยากทุกอย่าง และเดี๋ยวนี้มีหลายคนพยายามเปลี่ยนอาชีพเป็นหมอดูเป็นโหร เราก็อย่าไปหนักอกหนักใจมาก ถือว่าเป็นสีสันอย่างหนึ่งก็แล้วกัน"

เมื่อถามว่า หากจะเข้ามาเป็นแนวร่วมของรัฐบาลยากหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า " ก็ยากเหมือนกันครับ"  เมื่อถามว่า พรรคประชาธิปัตย์ จะกลับมาเป็นรัฐบาลจะยากหรือไม่ นายสุเทพกล่าวเชิงกระเซ้าว่า "ก็ยากครับ ไปแล้ว  ครับเดี๋ยวจะถามอย่างอื่นอีก"

เมื่อถามถึงกรณีที่นายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ขอให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี

นำรัฐบาลให้อยู่ครบเทอม นายสุเทพกล่าวว่า " เอาให้ผ่านไปเป็นช่วงๆ ก็แล้วกัน ต้องขอบคุณอดีตนายกฯ แต่มันก็ทำงานยาก เราทำเป็นช่วงๆ อย่าไปตั้งความหวังอะไรมาก ทำวันนี้ให้ดีที่สุด วันพรุ่งนี้เป็นอะไรก็ค่อยว่ากันใหม่ " เมื่อถามว่า นายบรรหารขอให้ผู้จัดการรัฐบาลรักพรรค ชทพ.บ้างอย่าไปรักพรรคใหญ่เยอะ นายสุเทพกล่าวว่า  " ผมก็รักทุกพรรค ผมทำหน้าที่เป็นผู้จัดการรัฐบาล เป็นผู้ประสานงานก็นอบน้อมไปทั่วไหว้เขาไปทั่ว มีใจให้กับทุกคน แม้แต่กับลูกพรรคของตัวเองก็พยายามพูดจาอะไรมากขึ้น บางคนเขาก็หมั่นไส้ผมอยู่แล้ว แต่ผมไม่มีเจตนาไปทำอะไรให้ใครไม่สบายใจ"

โฆษกมาร์ค  เหน็บ"จิ๋ว" ไหว้พระคนต้องพยุง

ด้าน นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกส่วนตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า ในฐานะพรรคการเมืองต้องขอแสดงความยินดีกับพรรคเพื่อไทยที่ย้ายที่ทำการพรรคใหม่ และขอให้สำเร็จตามคาดหวัง แต่จะสำเร็จหรือไม่อยู่ที่ภายในพรรคด้วย จะเอาซินแสมาช่วยดูอย่างไรก็ไม่ได้ช่วยหากคนในพรรคยังไม่ยอมรับซึ่งกันและกัน จากบรรยากาศการย้ายพรรคที่เกิดขึ้นนั้นชัดเจนว่า พล.อ.ชวลิตน่าจะถูกผลักดันให้เป็นผู้นำพรรคเพราะพูดกันถึงขนาดว่า พล.อ.ชวลิตน่าจะเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไปแล้ว พล.อ.ชวลิตออกอาการเขินเล็กน้อย ทั้งที่ข้างในดีใจจนตัวสั่น แต่เชื่อว่าคนไทยรู้จัก พล.อ.ชวลิตที่เคยเป็นนายกรัฐมนตรีมาแล้วแบบซึ้งดีแก่ใจ และไม่แน่ใจว่าด้วยอายุอานามของ พล.อ.ชวลิต จะสามารถนำพาบ้านเมืองไปถึงฝั่งได้หรือไม่ เพราะแม้แต่ก้มกราบพระยังต้องให้คนช่วยพยุง

ต้องผ่าน"เฉลิม-มิ่งขวัญ"ก่อน
    

ในงาน พล.อ.ชวลิตพาทีมงานมาเป็นจำนวนมาก อาทิ พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี แต่ที่หายไปคือ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส. และนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรค ซึ่งน่าจะเกิดความขัดแย้งกินใจกันบางอย่างในการชิงการนำในพรรค เพราะนายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรค ได้อ่านแถลงการณ์ชูคนเป็นนายกรัฐมนตรีเพียงแค่ พล.อ.ชวลิต และนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรคเท่านั้น โดยลืม ร.ต.อ.เฉลิมไปก็น่าเห็นใจ แต่กว่า พล.อ.ชวลิตจะได้เป็นนายกรัฐมนตรี คงต้องผ่านด่าน ร.ต.อ.เฉลิม และด่านนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ก่อน

วันนี้แม้กระทั่งเก้าอี้หรือห้องทำงานยังแย่งกัน ทราบมาว่าที่นายพร้อมพงศ์ไม่ไปร่วมงานนั้น เพราะไม่มีเก้าอี้ทำงานเลยไม่มา"  นายเทพไทกล่าว

นายเทพไทกล่าวว่า สิ่งที่ พล.อ.ชวลิตประกาศ ขอนำพรรคเพื่อไทยกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้งแลดูจริงจัง เพื่อโฆษณาชวนเชื่อให้สปอนเซอร์จากต่างประเทศให้การสนับสนุน แต่ที่บอกว่าการเมืองจะเปลี่ยนแปลงในปลายปี 2553 นี้ เพราะได้รับสัญญาณบางอย่างมา ถามว่าเป็นสัญญาณที่สอดคล้องกับกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ที่ประกาศเคลื่อนไหวตามต่างจังหวัดหรือกลุ่มแดงสยามที่เริ่มขายความคิดรัฐบาลแห่งชาติหรือไม่ สัญญาณที่อ้างนั้นเป็นสัญญาณจากเมืองนอกที่ต้องการให้เกิดความเปลี่ยนแปลงหรือไม่   สังคมต้องจับตา พล.อ.ชวลิต ต่อจากนี้อย่ากะพริบตา และเชื่อว่าหลัง พ.ร.บ.งบประมาณ 2554 ผ่าน การเมืองจะเปลี่ยนไปอีกแบบ เพราะทั้งพรรคร่วมและการเมืองภาคประชาชนล้วน เป็นปัจจัยทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองได้ทั้งสิ้น

สนั่น บอก"จิ๋ว" ลุ้นนายกฯรอบ2

ด้าน พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี และประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) กล่าวถึงเสียงวิจารณ์ว่า ชทพ. เนื้อหอมเป็นพิเศษ หลังแกนนำรัฐบาลและฝ่ายค้านแห่เข้าอวยพรวันคล้ายวันเกิดปีที่ 78 ของนายบรรหาร ว่าเป็นธรรมดาของผู้อาวุโส ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้มีความชัดเจนหรือยังว่า ว่าที่ ร.ต.ไพโรจน์ สุวรรณฉวี แกนนำกลุ่ม 3 พี จะนำ ส.ส.ย้ายไปสังกัด ชทพ. ในการเลือกตั้งสมัยหน้า พล.ต.สนั่นกล่าวว่า ไม่ทราบ ต้องไปถามว่าที่ ร.ต. ไพโรจน์เอง ส่วนกรณีที่พรรคเพื่อไทย (พท.) ประกาศชู พล.อ.ชวลิต เป็นนายกรัฐมนตรี สมัยที่ 2 นั้น พล.ต.สนั่นกล่าวว่า  " ถ้าท่านได้คะแนนเสียงข้างมากก็เป็นไปสิ เป็นได้ ท่านชวน (หลีกภัย) ยังเป็น 2 รอบเลย อะไรๆ ก็เกิดขึ้นได้ "  เมื่อถามว่า สามารถร่วมงานกับ พล.อ.ชวลิตได้ใช่หรือไม่ ประธานที่ปรึกษา ชทพ. กล่าวว่า "ได้ เป็นนายทหารรุ่นพี่ผม ทำไมจะร่วมกันไม่ได้ "

จิ๋วลั่นชนะเลือกตั้งพร้อมเป็นนายกฯ

วันเดียวกัน ที่สำนักงานเทศบาลตำบลนาหว้าใหญ่ อ.ปทุมราชวงศา จ.อำนาจเจริญ พล.อ.ชวลิต  พร้อมนายธีระชัย ศิริขันธ์ อดีต ส.ส.อำนาจเจริญ นายวิสันต์ เดชเสน อดีต ส.ส.ยโสธร พบปะประชาชน โดยมีนายชัยศรี กีฬา อดีต ส.ส.อำนาจเจริญ พรรคเพื่อไทย พร้อมชาวบ้านกว่า 500 คน ให้การต้อนรับ พล.อ.ชวลิตได้กล่าวปราศรัยกับประชาชนว่า ขออาสาเข้ามาแก้ไขปัญหาความยากจนแก่ชาวไร่ชาวนา ไม่จำเป็นต้องแก้ด้วยเงิน แต่ต้องแก้ด้วยหัวใจเท่านั้นจึงจะสำเร็จ หากมีการเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทยได้เสียงข้างมากจัดตั้งรัฐบาล ตนขอเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป เนื่องจากในอดีตเคยมีผลงานมากมาย อาทิ โครงการอีสานเขียว สมัยที่เป็นผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) และขอยืนยันว่าตนยังมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ไม่เจ็บป่วยตามที่มีข่าวลือ
  

 " สำหรับการทำงานแก้ปัญหาบ้านเมืองของรัฐบาลขณะนี้ ยังแก้ไขไม่ถูกจุด ตอนที่ผมแก้ปัญหาให้บ้านให้เมือง นายอภิสิทธิ์ยังไม่หย่านมเลย โดยเฉพาะพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ยังไม่มีใครสามารถแก้ปัญหาได้ ส่วน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เขาเป็นคนที่มีความจงรักภักดีต่อสถาบัน เพราะเขาอยู่ต่างประเทศไม่มีโอกาสออกมาชี้แจงต่อประชาชน ซึ่งเขาถูกใส่ร้ายป้ายสี  " พล.อ.ชวลิตกล่าว
 

จากนั้น พล.อ.ชวลิตได้เปิดป้ายแปลงทดลองปลูกข้าวพันธุ์สังข์หยดปลอดสารพิษ พร้อมลงดำนาในแปลงทดลอง ของสำนักงานเทศบาลตำบลนาหว้าใหญ่ 13 ไร่ เป็นแปลงทดลองแห่งแรกของจังหวัดอำนาจเจริญ เป็นพันธุ์ข้าวที่นำมาจากจังหวัดสตูล ให้ผลผลิตสูง เพื่อเป็นพันธุ์ข้าวนำไปแจกจ่ายให้เกษตรกรในการทำนาปีต่อไป