โวย ฝ่ายค้านอภิปรายล่าช้าหวังโหวตงบไม่ผ่าน

ปชป. โวย ฝ่ายค้านเล่นเกมในสภา อภิปรายล่าช้า หวังส.ส.รัฐบาลล้า โหวตงบไม่ผ่าน

วันนี้ 19 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่รัฐสภา นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ในฐานะคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาลหรือวิปรัฐบาล แถลงว่า วิปรัฐบาลขอเรียกร้องให้ฝ่ายค้านรักษาเวลาในการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายปี 2554 ตามข้อตกลงระหว่างประธานวิปฝ่ายค้าน ประธานวิปรัฐบาล และประธานสภาผู้แทนราษฎรได้กำหนดไว้  ซึ่งนับตั้งแต่เวลานี้ไปจนถึงเวลา 12.00 น.ของวันที่ 20 ส.ค. ซึ่งจะเหลือเวลาอภิปรายเพียง 20 ชั่วโมง โดยฝ่ายค้านจะได้ 14 ชั่วโมง ส่วน 6 ชั่วโมงที่เหลือ สำหรับกรรมาธิการ ครม.ที่ถูกพาดพิง และส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลที่สงวนคำแปรญัตติ ไว้ แต่เท่าที่ประเมินเห็นว่าส.ส.ฝ่ายค้านบางคนไม่ปฏิบัติตามกรอบเวลาที่ตกลงกันไว้เพราะต้องการให้อภิปรายไปถึงวันที่ 21-22 ส.ค. นี้  หากเป็นเช่นนั้น เจ้าหน้าที่สำนักงบประมาณได้แสดงความเป็นห่วงมาว่าอาจจะไม่ทันต่อการจัดเตรียมเอกสาร เนื่องจากรัฐธรรมนูญกำหนดว่าจะต้องจัดทำเอกสารงบประมาณฯให้ทันตามกรอบเวลา 105 วัน ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 26 ส.ค.นี้ อย่างไรก็ตามหากถึงเวลา 12.00 ของวันที่ 20 ส.ค.นี้ แต่ฝ่ายค้านยังมีอภิปรายไม่ครบรายมาตรา ประธานที่ประชุมต้องเคารพกติกาที่ตกลงกันไว้ โดยตัดผู้อภิปรายให้เหลือน้อยลงเป็น 1-2 คนก่อนลงมติรายมาตราต่อไป 

“ในทางการเมืองก็มองได้ว่า พรรคเพื่อไทยต้องการดึงเวลาเพื่อให้เราล้า เพราะส.ส.ฝ่ายรัฐบาลลุกไปไหนไม่ได้ เราต้องประคับประคององค์ประชุมไว้ให้ครบ ไม่เช่นนั้นการโหวตรับรองงบประมาณก็มีปัญหา” นพ.วรงค์ กล่าว

ด้านนายอรรถพร พลบุตร ส.ส.เพชรบุรี พรรคประชาธิปัตย์  กล่าวว่า การที่ฝ่ายค้านไม่รักษาเวลา อภิปรายวนเวียนประเด็นเดิม สะท้อนความไม่เป็นระบบของพรรคฝ่ายค้าน ที่ประธานวิปฝ่ายค้านไม่สามารถควบคุม ส.ส.ได้ ถือเป็นอนาธิปไตยโดยสิ้นเชิง 

ขณะที่นายบุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส.กรุงเทพฯ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตนขอให้หน่วยพยาบาลเตรียมพร้อม เนื่องจากมีส.ส.อาวุโสเหนื่อยล้าจากการประชุมข้ามวันข้ามคืนหลายคน ซึ่งห่วงว่าจะเหมือนกรณีของนายอาคม เอ่งฉ้วน ส.ส.กระบี่ พรรคประชาธิปัตย์ ที่ต้องหามส่งโรงพยาบาล โดยเฉพาะส.ส.ฝ่ายรัฐบาลที่ต้องนั่งประชุมต่อเนื่อง ไม่สามารถหนีกลับได้ เนื่องจากต้องลงมติทุกมาตรา หรือไม่ฝ่ายค้านก็เสนอจะเสนอนับองค์ประชุม ดังนั้นส.ส.รัฐบาลจึงทุกข์ทรมานอย่างยิ่ง สภาควบปรับปรุงระเบียบการประชุมดังกล่าว