สุรยุทธ์ ย้ำชัด แม้ว ห้ามเข้า 1 ปี - ยังไม่ถอนพาสปอร์ตทูต

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 15 พฤศจิกายน 2549 10:36 น.

อดีตนักการทูตอาวุโสจี้ยกเลิกหนังสือเดินทางทูตกับ ทักษิณ ทันที ชี้ไม่เหมาะสม งงรัฐบาล-คมช.ทำพิลึกกล่าวหาด้วย 4 ข้อหาฉกรรจ์แต่กลับให้เดินลอยนวล เดินสายสร้างแรงกดดันได้อย่างเสรี เชื่อเวลานี้ทั้งเมียและลูกๆยังถือพาสปอร์ตประเภทเดียวกันด้วย

วันนี้ (15 พ.ย.) นายกษิต ภิรมย์ อดีตเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา ให้สัมภาษณ์ในรายการ สภาท่าพระอาทิตย์ เมื่อตอนเช้า เรียกร้องให้รัฐบาลไทย และกระทรวงการต่างประเทศเร่งยกเลิกหนังสือเดินทางทางการทูต (พาสปอร์ตสีแดง) ที่เคยให้สิทธิ์กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพื่อป้องกันไม่ให้เดินสายล็อบบี้ต่างชาติและเคลื่อนไหวเพื่อสร้างข่าวให้ข้อมูลผิดๆ จนเกิดความวุ่นวายในประเทศไทย

นายกษิต กล่าวว่า หนังสือเดินทางทูตดังกล่าวมอบให้บุคคลที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เชื้อพระวงศ์ หรือข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศหรือนักการทูตที่ปฏิบัติราชการ ซึ่งหนังสือเดินทางประภทนี้สามารถเดินทางเข้าออกประเทศใดก็ได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า (ยกเว้นประเทศในกลุ่มอาเซียน และบางประเทศที่มีข้อตกลงข้ามแดนตามปกติอยู่แล้ว)

อดีตนักการทูตอาวุโสท่านนี้ยังกล่าวอีกว่า ข้ออ้างของกระทรวงการต่างประเทศที่อ้างว่าเพื่อให้เกียรติกับอดีตนายกรัฐมนตรีนั้นฟังไม่ขึ้น หากนำไปเปรียบเทียบกับนายสัญญา ธรรมศักดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ ถูกยึดอำนาจและถูกกล่าวหาด้วยข้อหาฉกรรจ์ถึง 4 ข้อ ดังนั้นไม่สมควรจะใช้หนังสือเดินทางทูตอีกต่อไป

เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับรัฐบาล และคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ว่าจะเอาอย่างไร เพราะสาเหตุการปฏิวัติยึดอำนาจด้วยข้อกล่าวหาทางการเมืองร้ายแรง 4 ข้อ แล้วต้องการจำกัดการเดินทางของคุณทักษิณหรือไม่ แม้ว่าเป็นอดีตนายกฯ ก็ตาม แต่คนคนนี้ถูกกล่าวหาร้ายแรง 4 ข้อ แต่ยังปล่อยให้เดินลอยนวลจะไปไหนก็ได้ในต่างประเทศ เพื่อสร้างแรงกดดันในประเทศไทย ถามว่าทั้งรัฐบาล และ คมช.จะเอาอย่างไรกันแน่ และต้องตัดสินใจให้ชัดเจน

นายกษิต ยังกล่าวอีกว่า เวลานี้ต่างชาติยังมองว่า พ.ต.ท.ทักษิณ มาจากการเลือกตั้ง แต่พวกเขาไม่เข้าใจว่า 5 ปีที่ผ่านมาได้ทำอะไรมาบ้าง หรือสร้างความเสียหายอะไรมาบ้าง และรัฐบาลและ คมช.ไม่ชี้แจงให้เต็มที่ และยังเห็นว่าหากไม่ต้องการให้ประเทศต่างๆ ให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ใช้เป็นทางผ่านหรือที่พักพิงก็สามารถเชิญทูตของแต่ละประเทศเหล่านั้นมาแสดงท่าทีได้

ผมเดาเอาว่าเวลานี้คุณพจมานและลูกๆ (คุณหญิงพจมาน นายพานทองแท้ ชินวัตร) ยังถือหนังสือเดินทางทูตด้วย ซึ่งสมควรยกเลิกให้หมด อดีตทูตอาวุโสท่านนี้ระบุ

ทั้งนี้ สื่อมวลชนของฮ่องกงรายงานข่าว พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน เดินชอปปิ้งในห้างสรรพสินค้าหรูแห่งหนึ่งพร้อมทั้งให้สัมภาษณ์เรื่องการเมือง พร้อมทั้งมีรายงานข่าวว่าจะเดินทางต่อไปบาหลี อินโดนีเซียด้วย อย่างไรก็ตาม นักสังเกตการณ์ทางการเมืองมองว่านี่เป็นความเคลื่อนไหวเพื่อกดดันรัฐบาล และ คมช. อีกทั้งเป็นการแสดงให้เห็นความเคลื่อนไหวเพื่อเป็นข่าว เป็นการส่งสัญญาณไปถึงผู้สนับสนุนในประเทศไทยด้วย

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 15 พฤศจิกายน 2549 12:09 น.

สุรยุทธ์ ยืนยันปิดทาง แม้ว กลับไทยอย่างน้อย 1 ปี ไม่หวั่น แม้ว เดินสายกดดันในต่างประเทศ ย้ำยังให้เกียรติในฐานะอดีตนายกฯ ยังไม่ยกเลิกหนังสือเดินทางทูต แต่ส่งสัญญาณเข้มถ้าเกินขอบเขตอาจให้กระทรวงการต่างประเทศพิจารณาเพิกถอน

วันนี้ (15 พ.ย.) พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ นายกษิต ภิรมย์ อดีตเอกอัคราชทูตไทยประจำสหรัฐฯ เสนอให้เพิกถอนหนังสือเดินทางนักการทูต (พาสปอร์ตสีแดง) ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพื่อสกัดการเคลื่อนไหวในต่างประเทศเพื่อกดดันรัฐบาลไทยอย่างสะดวกว่า เรื่องหนังสือเดินทางคงตอบตอนนี้ไม่ได้ ต้องถามทางกระทรวงการต่างประเทศ โดยปกติแล้วตามธรรมเนียมในฐานะที่ท่านเป็นอดีตนายกรัฐมนตรีของไทยมีโอกาสในการที่จะใช้พลาสปอร์ตที่ท่านมีอยู่แล้ว

ผู้สื่อข่าวถามว่า พาสปอร์ตทางการทูตมีเอกสิทธิ์สามารถเดินทางได้ทั่วโลกอย่างคล่องตัวจะเป็นปัญหาหรือไม่ พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร เราให้เกียรติท่านในฐานะที่เป็นอดีตนายกรัฐมนตรี ก็เป็นธรรมเนียมของเราก็เป็นอย่างนั้น ปัจจุบันเท่าที่ตนทราบถ้าเรามีการเปลี่ยนพาสปอร์ตเขาจะให้เราถือเพียงฉบับเดียว แต่ไม่แน่ใจวิธีการต่างๆ และระเบียบของกระทรวงการต่างประเทศจะเป็นอย่างไร ขอให้เขาตรวจสอบอยู่ ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีเหตุการณ์อะไร

เมื่อถามว่า การที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เปิดตัวกับสื่อคิดว่าจะมีผลกระทบอะไรหรือไม่ พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า คิดว่าไม่มีผลกระทบอะไร สื่อไปสัมภาษณ์ท่าน ท่านก็ไม่ได้ให้คำตอบอะไร เมื่อถามว่าทางกงสุลใหญ่ฮ่องกงรายงานหรือไมว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไปทำอะไรที่นั่น พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า ตนยังไม่ทราบ แต่โดยปกติแล้วทางเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศก็ต้องอำนวยความสะดวกและดูแลในฐานะที่ท่านเป็นอดีตนายกฯ ของไทย ตราบใดที่ไม่ได้มีความผิดพลาดเรื่องอะไรเกิดขึ้น

เมื่อถามว่า ทางรัฐบาลไม่ได้หวาดระแวงต่อการเคลื่อนไหวครั้งนี้ใช่ไหม พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า ไม่ได้หวาดระแวง เมื่อถามว่าคนอาจจะมองว่าการเดินทางไปหลายๆ ประเทศอาจไปพบผู้นำเพื่อเคลียร์ตัวเอง พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า ขอเรียนตรงๆ ว่าทางรัฐบาลไม่ได้มีปัญหาในเรื่องเหล่านั้น เป็นสิทธิของท่านที่จะเดินทางไปที่ไหนก็ได้ แม้กระทั่งอย่างที่เคยเรียนแล้วว่า หากจะเดินทางมาในประเทศไทยก็เป็นสิทธิของท่าน แต่การจะเข้ามาต้องขอให้พูดคุยกันก่อน

เมื่อถามว่า กรณีการลงจากอำนาจโดยการถูกยึดอำนาจจะต้องมีการพิจาณาการถือพาสปอร์ตทางการทูตหรือไม่ พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า เท่าที่คิดด้วยตนเองก็เป็นคำตอบอยู่แล้วว่าเราต้องให้เกียรติกันตราบใดที่ท่านยังไม่ได้ทำอะไรที่ผิดต้องให้เกียรติกัน

หากจะเข้ามา(เข้าไทย)ขอให้พูดกันก่อน และติดต่อกันก่อน พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าว และเมื่อถามว่าหากจะไม่มีการยกเลิกพาสปอร์ตการทูต แต่จะเป็นการคุยกันก่อนไม่ให้ร่อนเร่ไปประเทศอื่นๆ เพื่อให้เกิดความสบายใจ พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า ตนคงให้รายละเอียดตรงนี้ไม่ได้เพราะเป็นรายละเอียดของกระทรวงการต่างประเทศ ตนไม่รู้รายละเอียดตรงนี้จึงยังตอบไม่ได้ คงต้องไปขอความรู้และมาตอบให้ทราบในโอกาสต่อไปข้างหน้า

เมื่อถามว่า การเดินทางกลับไทยของ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังยึดเวลา 1 ปีเป็นหลักใช่ไหม พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า นั่นเป็นความคิดของตนเอง ส่วน พ.ต.ท.ทักษิณ อยากกลับเมื่อไรก็บอกแล้วให้คุยกันก่อน แต่นั่นเป็นความคิดของตนเองที่น่าจะเป็นเวลา 1 ปี หาก พ.ต.ท.ทักษิณ เห็นว่าไม่เหมาะก็คุยกันตรงนี้ได้

เมื่อถามว่าความเห็นของนายกฯ สอดคล้องกับคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติด้วยหรือไม่ พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า ตนคงไม่สามารถจะตอบตรงนั้นได้ ความคิดของตนเองและคนอื่นอาจจะไม่เหมือนกัน ซึ่งตนก็เคารพในความคิดของคนอื่น แต่ขณะนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังไม่ติดต่อขอเข้ามา