ถกงบวาระ 2 พท.โวยขายโครงการ

สภาฯ ถกงบประมาณวาระ 2 พท.โวยตั้งโต๊ะขายโครงการง ด้าน “ไตรรงค์” โอดรายละเอียดเยอะเต็มรถบัส

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 18 ส.ค. ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เป็นพิเศษ เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2544 ซึ่งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญ พิจารณาเสร็จแล้วในวาระที่ 2 โดยมี นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ทั้งนี้ นายชัย แจ้งต่อที่ประชุมว่า เนื่องจากวันศุกร์ที่ 20 ส.ค.เป็นวันถือศีลอด  ตามหลักศาสนาอิสลาม ทางสภาฯ ได้เชิญจุฬาราชมนตรี และผู้นำศาสนาอิสลามในแต่ละจังหวัดมาร่วมงานเลี้ยง เนื่องในเทศกาลลามาดอน จึงขอให้วิปของทั้ง 2 ฝ่าย ช่วยบริหารเวลาการอภิปรายวันละ 24 ชั่วโมง ให้แล้วเสร็จภายใน 2 วันด้วย

จากนั้น นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ได้รายงานผลการดำเนินงานของกรรมาธิการฯ ว่า คณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ใช้เวลาการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 54 ระหว่างวันที่ 2 มิ.ย.-5 ส.ค.53 ใช้เวลา 40 วัน ในการพิจารณา 442 หน่วยงาน วงเงินงบประมาณ 2,070,000,000,000 บาท ปรับลด 33,449,343,100 บาท โดยปรับลดโครงการที่ไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน หรือโครงการที่ได้ดำเนินการไปแล้ว โครงการที่มีเป้าหมายไม่ชัดเจน ไม่ประหยัด อาทิ ค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรมสัมมนา โครงการที่มีผลการดำเนินการล่าช้ากว่าแผนที่กำหนดไว้ หรือรายงานผูกพันงบเดิมที่ผลการจัดซื้อจัดจ้างกว่าวงเงินที่เสนอ การพิจารณารายละเอียดทั้งการปรับลด และเพิ่มงบ ได้ให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับเป้าหมาย และผลการดำเนินงานที่ผ่านมา ตลอดจนรายการที่จำเป็นเร่งด่วน เพื่อให้ดำเนินการในกรอบวงเงินงบ 2,070,000,000,000 บาท ให้ได้

นายเจริญ จรรย์โกมล ส.ส.ชัยภูมิ พรรคเพื่อไทย ได้สอบถามถึงร ายละเอียดโครงการการปรับเพิ่มงบประมาณในโครงการต่าง ๆ เช่นเดียวกับ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย กล่าวเสริมว่า ไม่มีหลักประกันว่างบประมาณได้รับการจัดสรรในโครงการที่รายงานต่อกรรมาธิการฯ จริงหรือไม่ จึงอยากทราบว่า เพราะเหตุใดถึงได้ไม่พิมพ์รายละเอียดแจกแจงให้สภาฯ ได้รับทราบ ที่สำคัญคืออัปยศอดสูรับเม็ดเงินเพื่อไปขายต่อ ทำให้รับไม่ได้

นายไตรรงค์ ชี้แจงว่า เรื่องนี้มีปัญหาตั้งแต่ปี 53 ที่จะมีรายละเอียดเฉพาะการปรับลด แต่ไม่มีรายการแจกแจงกรณีปรับเพิ่มที่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท ซึ่งทำกันอย่างนี้มาตั้งแต่ปี 2548 และตนได้ขอให้ไปฟ้องศาลรัฐธรรมนูญ โดยศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาแล้วเห็นว่า บทบัญญัติของรัฐธรรมนูญที่ระบุให้นำเสนอโครงการรายละเอียดการจัดสรรงบประมาณต่าง ๆ ใช้บังคับในชั้นขอความเห็นชอบจากสภาฯ เพื่อรับหลักการเท่านั้น ฉะนั้น หลังปรับลด กมธ.คงไม่สามารถจัดทำได้ เพราะมีรายละเอียดจำนวนมาก ต้องใช้รถบรรทุกจึงจะขนกันหมด

นายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า ไม่อยากจะมาประจานว่าใครนำงบประมาณไปขายกันอย่างไร การอ้างว่าหากทำรายละเอียดจะมีข้อมูลมากมาย ขนด้วยรถบันทุกจึงไม่เป็นความจริง น่าเศร้าว่าสิ่งที่กรรมาธิการฯ ควรจำปรับลดได้ เพื่อนำไปใช้ทำประโยชน์แต่ก็ไม่ทำ กลับเอาไปกองไว้เพื่อให้คนหยิบไปขายกินกันเป็นเปอร์เซ็นต์ จะเห็นชัดว่ามีคนวิ่งเต้นหน้าห้องกรรมาธิการฯ งบกันอย่างไร ประธานกรรมาธิการเองก็คงทราบเรื่อง ซึ่งมันไม่สวย ควรต้องแก้ไข

ขณะที่ นพ.ประสิทธิ์ ชัยวิรัตนะ ส.ส.ชัยภูมิ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า วันนี้เทคโนโลยีทันสมัยมากแล้ว แค่ทำซีดีแผ่นเดียวแจ้งรายละเอียดให้ ส.ส.ทุกคนรับทราบก็เพียงพอแล้ว ไม่จำเป็นต้องพิมพ์เป็นเอกสารใส่รถบัส

นายคมเดช ไชยศิวามมงคล ส.ส.กาฬสินธุ์ พรรคเพื่อไทย ได้อภิปรายว่า ขอให้นำรายละเอียดให้สมาชิกรับทราบเฉพาะงบของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นไม่ให้เป็นไปตามข้อครหาที่ระบุว่า มีการซื้อขายโครงการกันมากมาย

อย่างไรก็ตาม ในที่สุดหลังจากที่เปิดโอกาสให้ ส.ส.ฝ่ายค้าน แสดงความคิดเห็นเป็นเวลา 20 นาที ในที่สุดนายชัย ได้ตัดบทขอให้เข้าสู่การอภิปรายเรียงรายมาตราทันที.