ให้“สาทิตย์”ประสานฝ่ายค้านถกพระวิหาร

ครม.มอบ “สาทิตย์” ประสานฝ่ายค้านกำหนดกรอบถกพระวิหาร “ปณิธาน” ชี้ชายแดนไทย-เขมรมีสัญญาณดีขึ้น

วันนี้ (16 ส.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกฯ

ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุม ครม. ว่า ครม.ได้มอบหมายให้ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกฯ ไปประสานกับฝ่ายค้าน เพื่อพิจารณาแนวพิจารณากรอบการเจรจาความร่วมมือไทย-กัมพูชา หากรัฐสภารับกรอบการเจรจาดังกล่าว จะทำให้การทำงานคณะกรรมาธิการร่วมเพื่อปักปันเขตแดนไทย-กัมพูชา (เจบีซี) ดำเนินการต่อไปได้ ยืนยันว่า กรอบการเจรจาที่จะพิจารณาในวันที่ 17 ส.ค. ไม่มีเรื่องการยอมรับแผนที่สัดส่วน 1:2 แสน ตามที่นักวิชาการบางคนเข้าใจ
               
นายปณิธาน กล่าวว่า สำหรับบันทึกความเข้าใจไทย-กัมพูชา ปี 2543 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ ยืนยันว่า เป็นสิ่งที่มีประโยชน์ ไม่จำเป็นต้องยกเลิก

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีสัญญาณที่ดีจากฝั่งกัมพูชาในบริเวณพื้นที่ข้อพิพาท โดยได้รับรายงานจากกระทรวงกลาโหม ว่า กัมพูชาเริ่มปรับลดกำลังทหารออกจากพื้นที่ข้อพิพาท ส่วนการผลักดันชาวกัมพูชาที่อยู่ในพื้นที่พิพาทนั้น คงต้องแก้ปัญหาด้วยการเจรจา โดยยึดกรอบเอ็มโอยู ปี 2543 เบื้องต้น จะไม่ให้มีการเข้ามาตั้งรกรากเพิ่ม โดยใช้กลไกด้านภาษี การออกใบอนุญาตเข้าพื้นที่ ส่วนกรณีที่กัมพูชาจะยื่นฟ้องต่อศาลโลก เพื่อให้ตีความเรื่องพื้นที่พิพาท 4.6 ตร.กม.นั้น ขณะนี้ยังไม่พบว่ามีหลักฐานใหม่ที่ฝ่ายกัมพูชาจะนำไปยื่นต่อศาลโลก อีกทั้ง การจะนำเรื่องขึ้นศาลโลกต้องได้รับความยินยอมจากประเทศคู่กรณีด้วย อย่างไรก็ตาม เป็นห่วงว่าหากมีการใช้กำลังความรุนแรงในพื้นที่ อาจเป็นการเพิ่มน้ำหนักให้กัมพูชาใช้องค์กรระหว่างประเทศ และศาลโลกเข้ามาแทรกแซงได้ ทั้งนี้ จากการสำรวจความเห็นประชาชนส่วนใหญ่ยังเห็นว่า ควรใช้หลักสันติวิธีในการแก้ปัญหาความขัดแย้งไทย-กัมพูชา ส่วนพวกที่สนับสนุนให้ใช้ความรุนแรงแก้ปัญหามีเพียงส่วนน้อย.