“มาร์ค” มั่นใจโหวตงบ ไร้ปัญหา เชื่อปมเมล์เช่าไม่สร้างรอยร้าว

“มาร์ค” มั่นใจโหวตงบ ไร้ปัญหา เชื่อปมเมล์เช่าไม่สร้างรอยร้าว

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 14 สิงหาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการตรวจสอบคะแนนเสียงในการลงมติรับร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2554 ในวาระที่ 2 และ 3 ล่าสุด ว่า ได้กำชับในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ไปว่าถ้าครม. จะไปไหนขอให้แจ้งด้วย

ผู้สื่อข่าวถามว่า กังวลเรื่องคะแนนเสียงหรือไม่ เพราะสัปดาห์ก่อนเพิ่งเกิดเหตุสภาล่ม นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า หลายคนคงวิเคราะห์ไปแล้ว มันไม่ใช่เหตุการณ์ที่มีอะไรผิดปกติ หรือมีนัยยะทางการเมือง มันเป็นปัญหาเรื่องการบริหารจัดการมากกว่า

เมื่อถามว่า มั่นใจว่าจะไม่เกิดเหตุพระศุกร์เข้า พระเสาร์แทรกใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์หัวเราะก่อนกล่าวว่า “ผมคิดว่าทุกคนพร้อมทำหน้าที่ ทุกพรรคต้องช่วยกันสนับสนุนให้งบประมาณผ่านออกมา”

เมื่อถามว่า บรรยากาศระหองระแหงในหมู่พรรคร่วมรัฐบาลจากโครงการเช่ารถเมล์เอ็นจีวี 4 พันคันจะส่งผลต่อการโหวตรับพ.ร.บ. งบประมาณปี 2554 หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตนไม่คิดอย่างนั้น ทุกอย่างว่ากันด้วยเหตุด้วยผล ตัวโครงการรถเมล์อธิบายไปแล้วว่ายังไม่ได้ข้อยุติในบางเรื่อง ซึ่งต้องไปหาข้อยุติ

ผู้สื่อข่าวถามว่า อีกฝ่ายหนึ่งคิดและเห็นเหมือนกับนายกฯ หรือไม่ นายอภิสิทธิ์หันหน้าไปมองนายศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะโฆษกพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ก่อนอมยิ้มแล้วกล่าวว่า ไม่ทราบ เมื่อถามว่า รองโฆษกฯ ได้ออกมาให้พูดในลักษณะที่มีการตีความว่าภท. กำลังทวงบุญคุณในช่วงตั้งรัฐบาล นายอภิสิทธิ์หันไปมองหน้านายศุภชัยอีกครั้งก่อนถามว่า “รองโฆษกฯ ไหนครับ” ผู้สื่อข่าวตอบว่านายศุภชัย นายกฯ จึงกล่าวต่อว่า “อ้อ... ผมไม่ทราบครับ บังเอิญไม่ได้อ่าน ผมไม่คิดอะไร เวลาเป็นรัฐบาลผสม บางเรื่องก็มองต่างกัน บางทีพรรคการเมืองด้วยกันเองก็กระทบกระทั่งกันบ้าง”

เมื่อถามอีกว่า มีการนำผลประโยชน์มาต่อรองกันหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ไม่มีหรอก ตนไม่ให้ต่อรองอยู่แล้ว ก็ตัดสินไปตามเนื้อผ้าของแต่ละเรื่อง ไม่ต้องมาต่อรอง ไม่มีประโยชน์ที่จะต่อรอง

นายกฯ กล่าวด้วยว่า มั่นใจว่าการลงมติรับร่างพ.ร.บ. งบประมาณปี 2554 จะไม่เป็นปัญหา เพราะทุกคนก็ทำงานร่วมกันมาในคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญเพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ. งบประมาณปี 2554 ที่มีนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ซึ่งนายไตรรงค์ก็ทำงานหนักจนสามารถตอบคำถามต่างๆ ได้ ตนคิดว่ากฎหมายฉบับนี้จะทำให้เศรษฐกิจไปได้ดีและต่อเนื่อง เพราะตัวเลขในครึ่งปี 2553 ออกมาค่อนข้างดี หากมีการกระตุ้นอย่างเหมาะสมก็จะทำให้เศรษฐกิจในปีนี้และปีหน้าไปได้ดี หากต้องมาหยุดชะงักโดยกระบวนการก็คงจะกระทบ