รัฐบาลส่อล่ม จ่อปรับครม. ปชป.ยึดคืน

โฆษกพรรคเพื่อไทย แฉ รัฐบาลใกล้ล่มหลังต่อรองผลประโยชน์ไม่ลงตัว แฉ พรรคประชาธิปัตย์ เล็งปรับ ครม.ยึดเก้าอี้กระทรวงสำคัญคืน เพื่อยึดอำนาจเตรียมเลือกตั้ง...

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การประชุมสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันที่ 11 ส.ค.ที่เกิดเหตุ สภาล่มเพราะเหตุส.ส.ฝ่ายรัฐบาลมาแสดงตนไม่ครบ ทั้งที่ข้อเท็จจริงรัฐบาลมีเสียงข้างมาก แต่ไม่สามารถควบคุมองค์ประชุมสภาให้ครบได้เป็นเหตุให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรสั่งงดการประชุม และมีการกล่าวหาและโยนบาปให้ส.ส.ฝ่ายค้าน

อีกทั้งนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีอ้างว่าเสียงในสภาไม่ครบนั้นเป็นเรื่องปกติและยังอ้างภารกิจต่างๆ แสดงว่ารัฐบาลไม่รับผิดชอบกับการทำหน้าที่ในสภา เป็นเรื่องที่ควรประณาม

กรณีนี้เป็นไปตามที่พรรคร่วมรัฐบาลได้ขู่เอาไว้ว่าจะมีเหตุการณ์เอาคืนหลังจากโครงการเช่ารถเมล์เอ็นจีวี 4,000 คัน มูลค่า 64,000 ล้านบาท ไม่ผ่านครม. ซึ่งพรรคเพื่อไทยก็มองว่าน่าจะเป็นโครงการที่ไม่คุ้มค่าการลงทุน และเป็นช่องทางในการเกิดการทุจริตได้ง่ายรวมทั้งอาจจะมีปัญหาในอนาคตเป็นมรดกบาปให้กับลูกหลาน ครม.ควรสั่งระงับโครงการรถเมล์ไปเลยดีกว่าสั่งชะลอ ทำให้เป็นเพียงเกมการเมือง

วันนี้จึงเห็นได้ชัดว่ารัฐบาลชุดนี้อยู่ได้ด้วยการต่อรองและแบ่งปันผลประโยชน์ซึ่งกันและกัน เมื่อไม่ได้ผลประโยชน์ตามที่ตนเองต้องการก็มีกระบวนการตีรวนไม่เข้าประชุมสภา ทราบข่าวว่ามีการต่อรองหนักขึ้น

โดยส.ส.พรรครัฐบาลบางคนติดต่อพรรคฝ่ายค้านและอดีตพรรคร่วมรัฐบาลรับค่าตัว 7-8 หลักให้ยกมือผ่านร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2554 และน่าจะมีการแลกเปลี่ยนโครงการต่างๆกันที่ยื้อกันอยู่ หากวันที่ 18-19 ส.ค.นี้มีการเลื่อนประชุมออกไปแสดงว่าต่อรองกันไม่จบ อาจมีการต่อรองให้โครงการรถเมล์ผ่านก่อนแล้วค่อยมาประชุม

นายพร้อมพงศ์กล่าวว่า หลังการแต่งตั้งโยกย้ายทหารและตำรวจประจำปีนี้นั้น น่าจะมีการปรับครม.อีกครั้งโดยพรรคประชาธิปัตย์จะดึงกระทรวงสำคัญมาดูแล เช่น มหาดไทย พาณิชย์

เพื่อกวาดต้อนกระทรวงสำคัญมาอยู่ในมือรองรับการเลือกตั้งที่อาจเกิดขึ้นช่วงต้นปีหน้าเพราะตอนนี้รัฐบาลมีเสียงปริ่มน้ำและขัดแย้งกัน จึงมีความเสี่ยงยุบสภาเร็วขึ้น วัฒนธรรมทางการเมืองเช่นนี้ เป็นอันตรายต่อระบอบประชาธิปไตย และการบริหารราชการแผ่นดิน เพราะนักการเมืองบางกลุ่มบางคนจะทำเพื่อผลประโยชน์ของฝ่ายตน โดยไม่คำนึงถึงความทุกข์ยากความเดือดร้อนของประชาชน รัฐบาลชุดนี้เริ่มส่งสัญญาณนับถอยหลัง ทำตัวเหมือนกับแย่งกันกิน มื้อสุดท้าย ทะเลาะกันจนประเทศชาติล่มจม ขอฝากถึงพี่น้องประชาชนให้จดจำรัฐบาลที่มีเสียงข้างมาก ที่มีพฤติกรรมแบบนี้ ที่มุ่งแต่เล่นเกมการเมืองต่อรองผลประโยชน์และอำนาจ เลือกตั้งครั้งหน้าต้องลงโทษให้สาสม โดยการไม่เลือกกลุ่มคนพวกนี้เข้าสภา เพื่อจะสร้างปัญหาในระบอบประชาธิปไตยและการบริหารราชการแผ่นดินอีก รวมถึงการใช้จ่ายงบประมาณแผ่นดินที่อาจจะมีการทุจริตอีกต่อไป