นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ แถลงที่กระทรวงการต่างประเทศ วันที่ 10 สิงหาคมว่า
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯเซ็นหนังสือชี้แจงไปยังยูเอ็นแล้ว โดยพูดถึงการดำเนินความสัมพันธ์ที่ไทยมีนโยบายอันแน่วแน่ในการสะท้อนความเป็นสังคมไทยที่รักสันติภาพ และมุ่งสร้างความร่วมมือกับประเทศต่างๆ ทั้งระดับทวิภาคี ภูมิภาค และพหุภาคี เพื่อเสริมสร้างสันติภาพเสถียรภาพ และความมั่นคงมั่งคั่งของประชาชนทั้งสองประเทศ
"ล่าสุดไทยและกัมพูชาตกลงที่จะจัดประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (เจบีซี) รอบต่อไปโดยเร็วที่สุด ส่วนรายละเอียด ระเบียบวาระการประชุมและสถานที่จัดประชุมอยู่ระหว่างติดต่อประสานงาน หลังจากที่วันเดียวกันนี้ ครม.เห็นชอบตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอให้นำบันทึกการประชุมเจบีซี สามฉบับที่ค้างจากการประชุมสภาสมัยที่แล้วเสนอให้รัฐสภาพิจารณาอีกครั้ง โดยอาจให้จัดตั้งคณะกรรมการพิจารณาเรื่องนี้เป็นการเฉพาะ"
ส่วนประเด็นที่ติดขัดในแผนบริหารจัดการพื้นที่รอบปราสาทพระวิหารเรื่องคำเรียกขานปราสาท
นายกษิตกล่าวว่า หวังว่ากัมพูชาจะตอบรับหลักสากลในการเรียกชื่อคู่ "พระวิหาร/เพรียะวิเหียะ" โดยไม่มีเจตนาที่จะบอกว่าใช้คำไทยแล้วตัวปราสาทจะไม่เป็นของกัมพูชาตามคำตัดสินของศาลโลก นอกจากนี้เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาตนเรียกอุปทูตไทยประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ มาให้แนวทางการทำงาน ทั้งนี้จะจัดตั้งคณะทำงานเต็มเวลาเพื่อดูเรื่องเขตแดนทางบกและทะเล โดยมอบหมายให้นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ เป็นหัวหน้าทีม
นายกษิตกล่าวอีกว่า การพบปะระหว่างนายกฯกับภาคประชาชน อาจมีการแปลคำพูดไม่ตรงนัก
เสมือนมอบให้รัฐมนตรีต่างประเทศและรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมไปแก้ไขปัญหา โดยตีความว่าจะยกทัพไปรบ ซึ่งไม่ใช่เช่นนั้น แต่เป็นการใช้ช่องทางเพื่อพูดจากกับฝ่ายกัมพูชาทั้งทางส่วนตัวและในกรอบความร่วมมืออื่นๆ ที่มีอยู่ ขอวิงวอนไม่ให้ประโคมข่าวหรือทำให้ตกอกตกใจ เพราะที่ให้กระทรวงต่างประเทศและกระทรวงกลาโหมไปทำเป็นการประสานงานธรรมดา ซึ่งทำกันโดยตลอด โดยกระทรวงการต่างประเทศดำเนินการตามเจบีซี
ขณะที่กระทรวงกลาโหมก็มีคณะกรรมาธิการส่วนภูมิภาคไทย-กัมพูชา (อาร์บีซี) ที่ผ่านมายังมีการพูดคุยกันทุกระดับ
โดยรัฐมนตรีกลาโหมของไทยยังติดต่อพูดคุยกับผู้นำกัมพูชา และยืนยันว่าสิ้นปีนี้นายกฯจะไปร่วมประชุมยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิรวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง (แอคเมค) ที่กรุงพนมเปญ