นายจตุพร พรหมพันธ์ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.)
แถลงว่า นปช.ได้มอบหมายให้ทนายไปพบอัยการสูงสุดเพื่อร้องขอความเป็นธรรมกรณี นายพีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค รมว.ยุติธรรมยื่นหนังสือให้อัยการเร่งรัดสั่งคดีกับแกนนำนปช. ที่จะหมดอำนาจฝากขัง 84 วัน ตามประมวลกฎหมายอาญาในวันที่ 7 ก.ย. ซึ่งเรื่องนี้ตนต้องตั้งใจที่จะดำเนินคดีกับคนที่แทรกแซงอัยการสูงสุด ในสัปดาห์หน้าจะตั้งกระทู้ถามนายพีระพันธ์ในสภาก่อนถึงการแทรกแซงที่เกิดขึ้น นอกจากนี้ ยังทราบว่า มีการใช้งบราชการลับผ่านดีเอสไอ ไปยังอัยการบางคนเพื่อให้เร่งคดีกับแกนนำนปช. ถ้าจริงก็รอวันหายนะได้เลย เพราะที่ผ่านมามีรองอัยการสูงสุดรายหนึ่งบอกว่า ไม่เคยมีรัฐมนตรีคนไหนทำเช่นนี้มาก่อน
นายจตุพร กล่าวว่า ทราบข้อมูลวงในว่า มีการประชุมภายในสำนักงานอสส.ก่อนหน้านี้และมีมติล่วงหน้าไปแล้วว่า ต้องสั่งฟ้องแกนนำนปช.ที่ต้องคดี
ชี้ให้เห็นว่า ความอยุติธรรมได้เกิดขึ้นแล้วเพราะเมื่อเทียบกับคดีของแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.)ที่ยึดสนามบิน สำนวนออกจากตำรวจถึงอัยการเกือบสองปี แต่วันนี้ยังไม่ได้ขยับไปไหน แต่คดีของแกนนำนปช. กลับไม่มีการสอบพยานจำเลยแม้แต่คนเดียวทั้งที่เราขอให้สอบทั้งหมด 120 ปาก ขณะที่พันธมิตรให้สอบพันปากก็ยังมีการสอบปากคำอยู่
นายจตุพร กล่าวว่า ทราบว่าอัยการที่จะมาทำคดีแกนนำนปช.บางคนเคยเป็นหน้าห้องของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นการเอาหน้าห้องของฝ่ายปฏิปักษ์มาทำคดีนี้ ไม่รู้ทำได้อย่างไร ขนาดในชั้นอัยการยังเป็นเช่นนี้ และชั้นศาลจะเป็นอย่างไร วงการยุติธรรมมันย่อยยับไปหมดแล้ว
"ผมไม่ต้องการปรักปรำใคร แต่ต้องการให้ออกมาชี้แจงเพราะพฤติกรรมที่ทำอยู่มันเป็นความยุติธรรมที่อัปรีย์ที่สุด ขอเตือนทางอัยการว่า ถ้ายังทำอย่างนี้ คนเสื้อแดงก็จะไปชุมนุมที่สำนักงาน อสส.และเดินขบวนไปที่กระทรวงยุติธรรม ขอไปอย่างต่ำ 5 หมื่นถึง 1 แสน ทำเหมือนพันธมิตรทำเพราะอภิสิทธิ์สร้างมาตรฐานไปแล้ว ที่ไปชุมนุมเรื่องปราสาทพระวิหาร ทั้งที่นายอภิสิทธิ์ต้องถูกคุมขัง 1 เดือนตามอำนาจศอฉ. วันนี้เมื่ออยู่ดีๆกันไม่ชอบมันก็ต้องฉิบหายกันไปข้าง ถ้าอยากจะฉิบหายกันนัก ก็พร้อมจะฉิบหายกันให้ มาโชว์ออฟ กดขี่ข่มเหง เหยียบย่ำหัวใจทุกวันอย่างนี้ก็ต้องเจอกันบ้าง ถ้าไร้ซึ้งความปรานี ไร้ความเมตตา ก็อย่าอยู่กันดีๆ เลย" นายจตุพร กล่าว