"ฮุนเซน"ลั่นอาจถึง"นองเลือด"
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานท่าทีล่าสุดของสมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ที่ออกมาเตือนในงานหนึ่งที่มีบรรดานักการทูตต่างชาติเข้าร่วม เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม โดยกล่าวว่า ปัญหาพิพาทแนวชายแดนกับไทยนั้นเป็นปัญหาที่กำลังร้อนระอุอย่างยิ่ง ซึ่งอาจก่อให้เกิดการนองเลือดขึ้นได้
"กัมพูชาอยากให้จัดการประชุมนานาชาติว่าด้วยปัญหาพิพาทชายแดนกัมพูชา-ไทย เรื่องนี้เป็นประเด็นร้อนแรงอย่างยิ่งที่อาจนำไปสู่การนองเลือด" สมเด็จฮุน เซนกล่าวและว่า ความพยายามในระดับทวิภาคีที่จะแก้ปัญหาขัดแย้งกับไทยไม่ได้ผล ขอให้องค์การสหประชาชาติ(ยูเอ็น) อาเซียนและประเทศอื่นๆเข้ามาช่วยเพื่อแก้ปัญหาพิพาทนี้
ขณะที่เอพีระบุว่า นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเรียกร้องให้ยูเอ็นเข้ามาช่วยแก้ปัญหาพิพาทนี้
เนื่องจากทั้ง2ประเทศที่มีกำลังทหารประจำการณ์อยู่ตามแนวชายแดนต่างเดินมาถึงทางตัน ซึ่งการแสดงความคิดเห็นดังกล่าวของผู้นำกัมพูชา สำนักข่าวเอพีระบุว่าเป็นท่าทีล่าสุดของกรณีพิพาทระหว่างไทยกับกัมพูชาที่ดำเนินมายาวนาน และเป็นวิธีการที่ทั้งสองฝ่ายใช้ในการจุดกระแสชาตินิยมและเพื่อให้ได้รับการสนับสนุนทางการเมืองภายในประเทศ
ระบุคำขู่มาร์คละเมิดกฎยูเอ็น
ส่วน หนังสือพิมพ์พนมเปญ โพสต์ของกัมพูชารายงานถึงความเคลื่อนไหวของสมเด็จฮุน เซน เมื่อวันก่อน ว่า ผู้นำกัมพูชาได้ยื่นจดหมายถึงนายวิทาลี ชูร์กิน ประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ(ยูเอ็นเอชซีอาร์) หลังนายอภิสิทธิ์ กล่าวกับกลุ่มพันธมิตรว่ายินดีจะยกเลิกเอ็มโอยู 2543 แต่เพียงฝ่ายเดียวเพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศ และจะใช้วิธีการทั้งทางประชาธิปไตยและทางทหารในการแก้ปัญหานี้ ซึ่งในจดหมายผู้นำกัมพูชาชี้ว่าคำขู่ของนายอภิสิทธิ์เป็นการละเมิดกฎบัตรยูเอ็น 2 มาตรา และการแสดงความเห็นดังกล่าวของนายกฯไทยเป็นการข่มขู่ที่ชัดเจนในการที่จะยกเลิกเอกสารที่ถูกต้องตามกฎหมายแต่เพียงฝ่ายเดียวและจะใช้กำลังทางทหารในการแก้ไขปัญหาพิพาทเรื่องพรมแดน
เชื่อกดดันไทยไทยสู่โต๊ะเจรจา
พนมเปญโพสต์ระบุอีกว่าต่อข้อถามที่ว่ากัมพูชาจะผลักดันปัญหาพิพาทเหนือพื้นที่ปราสาทพระวิหารให้เข้าอยู่ในวาระการพิจารณาของคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นอย่างไร นายกอย กวง โฆษกกระทรวงต่างประเทศกัมพูชากล่าวว่า จดหมายที่ส่งไปดังกล่าวก็เพื่อแจ้งถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นให้คณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นได้รับทราบ
ด้านนายเชียง วันนะริด ผู้อำนวยการบริหารของสถาบันเพื่อความร่วมมือและสันติภาพของกัมพูชา กล่าวให้ความเห็นว่า
ท่าทีคัดค้านของไทยต่อการให้มีการเจรจาหลายฝ่ายในกรณีพิพาทปราสาทพระวิหารนั้น จดหมายของสมเด็จฮุน เซน อาจจะเป็นหนทางหนึ่งที่กดดันให้นายอภิสิทธิ์ต้องกลับมาสู่โต๊ะเจรจา "กัมพูชาต้องการให้คณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นรับทราบและมีท่าทีบางอย่างออกมา ซึ่งนั่นอาจเป็นการสร้างความกดดันให้รัฐบาลไทย เป็นการกดดันทางการทูตให้ไทยจัดการกับปัญหานี้ในระดับทวิภาคี"