นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยเมื่อวันที่ 9 ส.ค.
ถึงกรณีที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงบประมาณ กระทรวงการคลัง สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ตั้งข้อสังเกตในหลายประเด็นเกี่ยวกับโครงการเช่ารถเมล์เอ็นจีวี 4,000 คันที่จะมีการพิจารณาโดยคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 10 ส.ค.นี้ ว่า ที่ผ่านมายืนยันว่ากระทรวงคมนาคมรวมทั้งองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ได้มีการชี้แจงรายละเอียดต่างๆ มามากพอสมควรแล้ว หากมีการทักท้วงหรือตั้งข้อสังเกตใน ครม.อีก ตนในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ก็พร้อมจะชี้แจงในทุกเรื่องและเท่าที่ทราบประเด็นข้อสังเกตก็เป็นประเด็นเดิมที่ไปหมดแล้ว
“ยืนยันไม่ได้มีการเร่งรีบในการเสนอเข้าครม.เลย เพราะโครงการนี้มีมานานแล้ว เมื่อครม.สั่งให้เราชี้แจง เราก็ชี้แจงไปตามที่ต้องการ ซึ่งทั้งสศช.และสำนักงบประมาณก็รับทราบเรื่องนี้มาตั้งแต่แรก แต่ก็ยังมาตั้งข้อสังเกตอีก”
นายโสภณ กล่าวว่า โครงการดังกล่าวในความเป็นจริงนั้นเป็นโครงการที่ดีแต่กระแสสังคมก็พยายามโยงให้เป็นเรื่องของการเมืองตลอดเวลา
โดยที่ไม่มองความเป็นจริงของสภาพรถเมล์ในปัจจุบันว่าเป็นอย่างไรและเมื่อมีการโยงเรื่องนี้ไปเกี่ยวข้องกับการเมืองมีการป้ายสีโครงการนี้จนกลายเป็นสีดำก็ทำให้ผู้ที่มีอำนาจในการอนุมัติไม่กล้าที่จะดำเนินการใดๆ ส่วนที่มองว่าทำไมต้องเร่งรีบนำโครงการนี้เข้าไปพิจารณา ก็ยืนยันว่าโครงการนี้ดำเนินการด้วยความล่าช้าเพราะมีการเสนอมาเป็นระยะเวลายาวนานมีการศึกษาจากหลายหน่วยงาน และปรับปรุงแก้ไขมาโดยตลอดเพื่อให้ทุกฝ่ายรับได้ แต่จะให้ถูกใจทั้งหมดคงเป็นไปไม่ได้
“การพิจารณาถึงข้อดีข้อเสียของโครงการ ความคุ้มค่าหรือไม่นั้นมันเป็นเรื่องที่ดีในทางธุรกิจ แต่ข้อเสียเมื่อราชการทำเองก็คือความล่าช้าของการตัดสินใจ หากยื้อเวลาออกไปอีกผมก็ไม่แน่ใจว่าราคากลางที่กำหนดมาที่ 4,343 บาทต่อวันต่อคันนั้นมันจะเพิ่มขึ้นหรือไม่ ถึงวันนั้นก็จะมีคนมาพูดอีกว่าราคาเช่าแพงเกินไปแล้วจะให้แก้ไขอย่างไรเพราะการตัดสินใจในทางธุรกิจบางทีช้าไปแค่วันเดียวราคาก็ต่างกันแล้ว”นายโสภณ กล่าว
นายโสภณ กล่าวว่า หากในวันที่ 10 ส.ค.นี้ ครม.ไม่มีการอนุมัติให้ดำเนินการในโครงการนี้ และเหตุผลที่จะให้ไปศึกษาแผนการดำเนินการอีกครั้งไม่มีเหตุผลที่มากพอ ก็ไม่คิดจะนำเสนอให้ครม.อีก แต่หากมีเหตุผลพอกระทรวงคมนาคมและขสมก.ก็พร้อมจะนำข้อมูลที่ได้จากการตั้งข้อสังเกตไปศึกษาและปรับปรุงแผนเพื่อนำมาเสนอเข้าที่ประชุมครม.อีกครั้ง