เด็ก ปชป.ป้อง “ธาริต” ทำตามหน้าที่ จี้ ขรก.ดีเอสไอประจานเหลือบแผ่นดิน
ที่พรรคประชาธิปัตย์ วันที่ 9 ส.ค. นายสกลธี ภัททิยกุล ส.ส.กทม. ผู้ช่วยเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์
กล่าวถึง การที่ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ออกมาบอกจะตรวจสอบการทำหน้าที่ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กรณีที่ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ สั่งไม่ฟ้องคดีไซฟ่อนเงินบริษัท ทีพีไอ โพลีน ว่า พรรคเห็นด้วยที่พรรคเพื่อไทยจะเข้าไปตรวจสอบ และพรรคประชาธิปัตย์จะเข้าไปตรวจสอบอย่างใกล้ชิดเช่นกัน เพราะเราต้องการให้ประชาชนเห็นว่าเหตุใดคดีนี้ถึงต้องรอให้นายธาริต มาสั่งคดีเอง เพราะคดียุบพรรคซึ่งเป็นคดีย่อยเดินไปถึงศาลรัฐธรรมนูญแล้ว แต่คดีหลักคือคดีไซฟ่อนเงินยังไม่มีผลออกมา ดังนั้น การสั่งคดีของนายธาริต จึงถือเป็นการทำหน้าที่ตามปกติของข้าราชการ ถ้าพรรคเพื่อไทยจะไปทวงถามถึงความคืบหน้า ทางพรรคประชาธิปัตย์ก็อยากถามเช่นกันว่า นายธาริต ได้ตั้งคณะกรรมการสืบหาตัวข้าราชการที่รับใช้นักการเมืองไปถึงไหนแล้ว มีการเข้าไปตกแต่งพยานเท็จ หรือบิดเบือนสำนวนที่ใช้เป็นเครื่องมือทำลายพรรคการเมืองคู่แข่งหรือไม่
นายสกลธี กล่าวอีกว่า ส่วนที่ น.อ.อนุดิษฐ์ เรียกร้องให้ข้าราชการดีเอสไอปกป้องศักดิ์ศรีข้าราชการในกรม ไม่ให้เป็นเครื่องมือของนักการเมืองนั้น
ตนอยากเรียกร้องเหมือนกันว่าให้ข้าราชการดีเอสไอทุกคนที่ตั้งใจทำงานออกมาเรียกร้อง เพราะช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมาคิดว่าข้าราชการทั้งหมดในดีเอสไอคงรู้ว่าอะไรเป็นอะไร และคดีนี้มีที่มาที่ไปอย่างไร ประชาชนจะได้รู้ว่าเม็ดเงินภาษีที่เสียไปให้กับดีเอสไอเป็นอย่างไร ทำงานคุ้มค่ากับเม็ดเงินของประชาชนมากเพียงใด และจะได้รู้ว่าข้าราชการที่เลว ๆ ที่ยอมทุกอย่าง แม้การบิดเบือนสร้างพยานหลักฐานเท็จทำลายพรรคคู่แข่งมีใครบ้าง
ผู้ช่วยเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวอีกว่า ส่วนที่ นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย
ออกมาระบุ มีแกนนำระดับสูงของรัฐบาล อักษรย่อ ส. ใช้พลังอำนาจกดดันเพื่อให้พยานกลับคำให้การ ถือเป็นการบิดเบือนทำให้ประชาชนสับสน คดีนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ ควรปล่อยให้ศาลทำหน้าที่เต็มที่ อย่าบิดเบือนกดดันซ้ำซาก หากมีหลักฐานว่าผิดก็ว่าตามผิด พรรคพร้อมรับคำพิพากษาของศาล ดังนั้น หากพยานในคดีจะกลับคำให้การก็อาจจะเป็นเพราะในขณะทำการสืบสวนสอบสวนนั้น อาจจะมีการข่มขู่พยาน หรือจูงใจเพื่อให้ให้การเท็จก็สุดแล้วแต่ แต่พยานจะกลับตัวได้ ขออย่ากล่าวหาพรรคประชาธิปัตย์แทรกแซงกระบวนการยุติธรรม เพราะพรรคประชาธิปัตย์ไม่นิยมใช้เงินฟาดเหมือนบางพรรคการเมือง คงจำได้ว่าคดีถุงขนม 2 ล้านบาทเกี่ยวข้องกับพรรคการเมืองไหน ยืนยันว่า ทุกคนในพรรคที่ทำคดียุบพรรครู้ดี และได้หารือกับ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรค ในฐานะหัวหน้าทีมกฎหมายรับมือคดียุบพรรคว่า ขอให้ทำคดีนี้ด้วยฝีมือ ไม่ใช่ฝีตีน.