นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
ให้สัมภาษณ์ที่ทำเนียบรัฐบาล ถึงการหารือกันระหว่างนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และตัวแทนรัฐบาลกับแกนนำเครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติ กรณีปราสาทพระวิหาร ผ่านการถ่ายทอดสดทางสถานีวิทยุโทรทัศน์กรมประชาสัมพันธ์ว่า การพูดจากันของทั้งสองฝ่ายทำให้เกิดความเข้าใจกันในประเด็นต่างๆมากขึ้น แม้จะมีบางประเด็นที่ยังเห็นไม่ตรงกัน แต่ทุกฝ่ายได้แสดงจุดยืนบนข้อเท็จจริง ซึ่งหลังจากนี้คนไทยต้องพิจารณาว่า แต่ละมุมมองเกี่ยวกับกรณีปราสาทพระวิหารได้รับชมรับฟังไปนั้น ประเด็นไหนถูกต้องมากที่สุด ซึ่งจุดนี้เป็นจุดที่มีส่วนสำคัญ ในการคลี่คลายปัญหาและลดกรณีปัญหาที่จะบานปลาย เพราะจากการพูดคุยกัน ทุกฝ่ายก็เห็นแก่บ้านเมืองด้วยกันทั้งสิ้น
เมื่อถามว่า การเจรจากับเครือข่ายคนไทยฯ ทำให้ถูกหลายฝ่ายมองว่า รัฐบาลเอาใจกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย นายองอาจ กล่าวว่า คงไม่ใช่
เพราะหากยังจำกันได้ในช่วงการชุมนุมของคนเสื้อแดง เมื่อมีเสียงเรียกร้องให้มีการเจรจากัน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ก็เปิดการเจรจาและให้มีการถ่ายทอดสด และเรื่องนี้ก็ไม่ใช่เรื่องของเสื้อเหลือง แต่เป็นกลุ่มคนที่รวมตัวกันมาเพื่อเรียกร้องให้มีการพูดคุยกัน ซึ่งหลังจากนี้ตนเชื่อว่าการพูดคุยกันถึงกรณีปราสาทพระวิหารนั้น จะมีไปอีกระยะหนึ่ง และทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทยก็มีช่องทางมากมายที่พร้อมจะให้คนไทยได้แสดงข้อมูลและเหตุผล ดังนั้น หากมีเวลาก็ควรที่จะมีการมาพูดคุยกัน ซึ่งรัฐพร้อมที่จะทำความเข้าใจในประเด็นต่างๆทั้งหมด
นายองอาจ กล่าวถึงกรณีที่สมเด็จ ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชาร้องเรียนสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติและสื่อมวลชน
โดยอ้างถึงคำพูดของนายอภิสิทธิ์ ระหว่างดีเบตกับเครือข่ายคนไทยฯ กล่าวหาว่าไทยขู่จะใช้กำลังในการแก้ไขปัญหาว่ากรณีนี้เป็นสิทธิของสมเด็จ ฮุน เซน ที่สามารถกระทำได้ ซึ่งเราเข้าใจว่าภายในกัมพูชาก็มีปัญหา ที่จะต้องต่อสู้กันทางการเมืองมากมาย จึงไม่น่าจะเป็นปัญหาอะไรกับการดำเนินการต่อไปของประเทศไทย