ร่อนหนังสือถึงยูเอ็นโต้กัมพูชาส่งจดหมายใส่ร้าย

รัฐบาลเตรียมร่อนหนังสือถึงยูเอ็นโต้กัมพูชาส่งจดหมายใส่ร้ายคุกคามเขมร


เมื่อวันที่ 9 ส.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล  นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่กรณีสมเด็จฯฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ส่งหนังสือถึงประธานการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ(ยูเอ็นจีเอ) และคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ(ยูเอ็นเอสซี) ประท้วงท่าทีของไทยที่จะยกเลิกบันทึกความเข้าใจ(เอ็มโอยู)ไทย-กัมพูชา ปี 2543 รวมถึงจะใช้วิธีทางการทูตและการทหารในการแก้ปัญหาชายแดน ซึ่งจดหมายดังกล่าวยังระบุด้วยว่าข้อพิพาทบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาที่ได้รับการพิจารณาชี้ขาดให้ได้รับการดูแลจากกัมพูชาโดยศาลโลกเมื่อปี 2505 และองค์กรอื่นๆ ในปี 2477 ซึ่งไทยละเมิดคำตัดสินของศาลระหว่างประเทศ ว่า ขณะนี้กระทรวงการต่างประเทศกำลังประชุมหารือกับผู้เชี่ยวชาญทางกฎหมายระหว่างประเทศและอีกหลายคณะ ซึ่งคงจะได้นำรายงานให้กับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้ทราบ อย่างไรก็ตาม จุดยืนของไทยไม่เปลี่ยนแปลงที่ร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านบนผลประโยชน์ร่วมกัน ถ้าเห็นว่าเป็นประโยชน์ในการที่จะคงความตกลงต่างๆไว้ ซึ่งนายกรัฐมนตรีพูดชัดเจนว่าเราจะคงประโยชน์เหล่านี้ไว้

ต่อข้อถามว่าการที่กัมพูชาอ้างว่าไทยละเมิดคำตัดสินของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ คิดว่าต่างประเทศมีความเข้าใจเรื่องนี้หรือไม่

นายปณิธาน กล่าวว่า คิดว่าต้องชี้แจงเพิ่มเติม เพราะตั้งแต่มีมติของศาลโลก ก็คิดว่านานาชาติรับทราบว่าไทยเคารพมติ แต่เราก็สงวนสิทธิ์ และเราก็คิดว่ามตินั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องอื่นๆ ยกเว้นเรื่องตัวปราสาท ดังนั้นอีก 1 ปีจึงเป็นโอกาสที่เราจะได้ชี้แจงว่าจะมีคณะทำงานต่างๆ ภาคประชาชนจะเข้ามาทำงานร่วมกันในการชี้แจง ทั้งนี้อาจจะมีนานาชาติบางส่วนยังไม่รับทราบข้อมูลส่วนนี้ ก็เป็นโอกาสดี

ต่อข้อถามว่ายังเป็นเรื่องของทวิภาคที่ต่างประเทศไม่ควรเข้ามาเกี่ยวข้องใช่หรือไม่

นายปณิธาน กล่าวว่า จริงๆแล้วก็เป็นหลักว่าปัญหาชายแดนตกลงกันด้วยกรอบที่เรามีอยู่ในระดับทวิภาคีของ 2 ประเทศ แต่เราก็รับความเป็นกังวลของนานาประเทศ  แต่โดยหลักแล้ว 2 ประเทศจะตกลงกันเอง และคิดว่านานาชาติจะเคารพตรงนี้ เข้าใจว่าองค์การสหประชาชาติก็คงจะมีการให้ความเห็นบ้าง แต่ก็เป็นเรื่องปกติ สำหรับเนื้อหาหนังสือชี้แจ้งที่เราเตรียมจะทำถึงสหประชาชาตินั้นมี 3 ส่วน ส่วนแรกเรื่องข้อกฎหมายที่กัมพูชาตั้งข้อสังเกต ส่วนที่ 2 คือกรณีที่เราถูกบุกรุกพื้นที่ และส่วนที่ 3 คือการที่เรายืนยันว่าจะดำเนินการทุกอย่างตามหลักสันติวิธีและข้อกฎหมายที่เป็นที่ยอมรับ


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์