กลุ่มวันอาทิตย์สีแดงทำกิจกรรมสัญลักษณ์ที่เชียงราย บ.ก.ลายจุดใส่ชุดนักเรียนจำลองเหตุการณ์ นักเรียน-นักศึกษา 5 คนชูป้ายประท้วงพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ก่อนร่วม กับเด็กทั้ง 5 ประท้วงแนวนอน"ที่นี่มีคนตาย" คนเชียงรายและจังหวัดใกล้เคียงร่วมกิจกรรมกว่า 200 คน น.ศ.ราชภัฏเชียงรายลั่นทำตามจิตสำนึก ไม่มีใครมาจ้าง เด็กม.5 โวยพ่อแม่โดนข่มขู่ แม่เด็กวอนเลิกคุกคามครอบครัว เผยเคยคิดพาลูกไปขอโทษนายกฯ แต่เรื่องบานปลายไปแล้ว
บก.ลายจุดใส่ชุดน.ร.บุกเชียงราย
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 7 ส.ค. ที่หอนาฬิกาใหม่ ถนนบรรพปราการ อ.เมือง จ.เชียง ราย นายสมบัติ บุญงามอนงค์ บ.ก.ลายจุด แกนนำกลุ่มวันอาทิตย์สีแดง เดินทางจากกรุงเทพฯ มาทำกิจกรรมแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ของกลุ่มวันอาทิตย์สีแดง โดยจำลองเหตุการณ์การชูป้ายของนักเรียน-นักศึกษา 5 คน ที่ถือป้ายประท้วงพ.ร.ก.ฉุกเฉิน และชูป้ายมีคนตายที่ราชประสงค์ที่จ.เชียงราย แล้วถูกตำรวจจับกุมตัวไปดำเนินคดี โดยมีประชาชนทั้งในเชียงรายและ จังหวัดใกล้เคียงมาร่วมกิจกรรมจำนวนมากกว่า 200 คน ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารทั้งในและนอกเครื่องแบบมาร่วมสังเกตการณ์จำนวนมากเช่นกัน
ก่อนทำกิจกรรม นายธนิต บุญญนสินีเกษม แกนนำกลุ่มพลังมวลชนเชียงราย พร้อมทีมงานคนเสื้อแดงมาจัดเตรียมสถานที่ โดยเลือกพื้นที่เกาะกลางถนนฝั่งตะวันตกเป็นพื้นที่ทำกิจกรรม ด้วยการนำผ้าสีแดงยาวกว่า 50 เมตร นำมาล้อมรอบรั้วบริเวณเกาะกลาง เพื่อเป็นการแสดงสัญลักษณ์ของคนเสื้อแดง ทั้งนี้ นายกิตติพงษ์ นาตะเกศ นายนิติเมธพนฏ์ เมืองมูลกุลดี นักศึกษา และนักเรียนชั้นมัธยมปีที่ 5 ที่ถูกตำรวจดำเนินคดีตามความผิดพ.ร.ก.ฉุกเฉินก่อนหน้านี้มาร่วมกิจกรรมครั้งนี้ด้วย
5 เด็กคดีพรก.ร่วมกิจกรรม
กระทั่งเวลา 10.00 น. นายสมบัติเดินทางมายังพื้นที่ทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ ด้วยการแต่งกายชุดนักเรียนมัธยม เสื้อเชิ้ตสีขาว กางเกงขาสั้นสีดำ สวมถุงเท้าและรองเท้าเครื่องแบบนักเรียน มาพร้อมกับนางเกษณีย์ ชื่นชุม อาชีพค้าขายชาวเชียงราย ที่สวมชุดเครื่องแบบนักเรียนหญิง เสื้อสีขาว กระโปรงสีแดง พร้อมทั้งถือกระเป๋าสีแดง มาทำกิจกรรม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กิจกรรมแรกเริ่มด้วยนายสมบัติมอบผ้าสีแดงที่เป็นสัญลักษณ์ของกลุ่มวันอาทิตย์สีแดง ให้กับน้องนักเรียนชั้นมัธยมปีที่ 5 ที่สวมเสื้อแดง และเอาผ้าปิดปากเพื่ออำพรางใบหน้า เพราะก่อนหน้านี้เคยถูกตำรวจส่งห้ามร่วมกิจกรรมกับกลุ่มคนเสื้อแดง นายสมบัติกล่าวว่า ขอเป็นกำลังใจให้กับน้องที่กล้าแสดงออกตามระบอบประชาธิปไตย ถือเป็นต้นกล้าประชาธิป ไตยต้นหนึ่ง ซึ่งการแสดงออกครั้งนี้ถือเป็นกระบวนการตามรัฐธรรมนูญที่ให้สิทธิ์ในการแสดงออกทางการเมือง ซึ่งเป็นการกระทำที่ถูกต้อง เราต้องช่วยกันสนับสนุน
จากนั้นนายสมบัติพร้อมด้วยนางเกษณีย์แสดงกิจกรรมด้วยการชูป้ายภาพข้อความล้อเลียน กิจกรรมของเด็กนักเรียนนักศึกษาทั้ง 5 คน ที่ถูกตั้งข้อหาละเมิดพ.ร.ก.ก่อนหน้านี้ โดยเริ่มจากชูป้ายรูปพระอาทิตย์สีแดง ตามด้วยรูปการผูกผ้า ต่อด้วยรูปคนตาย และสุดท้ายรูป โอโล olo หลังจากนั้นทั้งคู่นำผ้าแดงไปผูกไว้ที่เสาไฟฟ้าบริเวณเกาะกลางเพื่อแสดงสัญลักษณ์ขอกลุ่มวันอาทิตย์สีแดง
ประท้วงแนวนอน"ที่นี่มีคนตาย"
จากนั้น นายสมบัติ นางเกษณีย์ นายกิตติพงษ์ นายนิติเมธพนฏ์ และนักเรียนชั้นมัธยมปีที่ 5 ได้นอนบนเกาะกลางถนนดังกล่าว เพื่อแสดงกิจกรรมที่นี่มีคนตาย พร้อมทั้งนำผ้าแดงปูที่พื้นแทนสัญลักษณ์ของการนอนเลือดกับเหตุการณ์ที่ผ่านมา
ส่วนกิจกรรมสุดท้ายของนายสมบัติกับนางเกษณีย์เป็นการแสดงละครชายกลางกับหญิงพจมาน โดยนายสมบัติชูนิ้วกลางทั้งสองมือเพื่อแสดงเรียกร้องความเป็นกลางทางสังคม และให้รัฐดำเนินการบนพื้นฐานของความเป็นกลาง ส่วนนางเกษณีย์ในฐานะคนเชียงราย และเป็นเจ้าของบ้านในพื้นที่จังหวัดเชียงราย กล่าวเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินที่จ.เชียงราย เพราะเชียงรายถือเป็นพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญ และที่ผ่านมาก็ไม่มีเหตุการณ์รุนแรง
นายสมบัติกล่าวว่า วันนี้มาให้กำลังใจนัก เรียน นักศึกษา ทั้ง 5 คน ที่กล้าแสดงออกทางความคิดทางด้านการเมือง ภายใต้กรอบของรัฐธรรมนูญ ซึ่งการชูป้ายเพื่อบอกข้อเท็จจริงให้สังคมได้รับรู้ ไม่สมควรที่จะถูกดึงเป็นคดีความผิดเกี่ยวกับพ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพราะการชูป้ายไม่ใช่แนวทางที่จะนำไปสู่ความรุนแรง หรือเป็นการยั่วยุให้สังคมเกิดความแตกแยกได้ แต่ในความเป็นจริงนั้นการคงไว้ซึ่งพ.ร.ก.เป็นการดำเนินการของฝ่ายรัฐที่ต้องการปกปิดข้อเท็จจริงไม่ให้คนออกมาเปิดเผยให้สังคมได้รับรู้
ย้อนรัฐบาล-อานันท์ค้านพรก.
นายสมบัติกล่าวด้วยว่า ส่วนการแสดงออกด้วยการชูป้ายข้อความที่รัฐยอมรับไม่ได้ จึงไปกล่าวหาว่าเด็กมีความพกพร่องทางจิต ต้องได้รับการบำบัดนั้นก็ไม่ถูกต้อง เพราะการที่เด็กนักเรียน นักศึกษา บอกว่าให้รัฐบาลยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินทำให้เป็นผู้ป่วยทางจิต แสดงว่า คณะกรรมการปฏิรูปประเทศ ชุดที่มีนายอานันท์ ปันยารชุน เป็นประธาน ที่ก่อนหน้านี้ได้เสนอให้รัฐบาลและศอฉ.ยกเลิกพ.ร.ก. ฉุกเฉินทั่วประเทศนั้น คงเข้าข่ายเป็นผู้ป่วยทางจิต ต้องได้รับการบำบัด เหมือนกรณีเดียวกับนักเรียนชั้นม.5 หรือแม้แต่ประชาชนเกือบทั้งประเทศที่กำลังออกมาคัดค้านพ.ร.ก.ดังกล่าวหลายล้านคน คงต้องเป็นคนป่วยโรคจิตทั้งหมด
"ผมยืนยันว่าการดำเนินการของเด็กทั้ง 5 คนเป็นสิ่งที่ถูกต้อง เป็นความชอบธรรมตามสิทธิ์ที่พึงมี และผมก็ให้การสนับสนุน ดังนั้นผู้ใหญ่ในบ้านเมืองควรเคารพสิทธิการแสดงออกของเด็ก ไม่ควรไปกลั่นแกล้ง หรือคุกคามเด็กอย่างที่ดำเนินการอยู่ในขณะนี้" นายสมบัติกล่าว
แกนนำกลุ่มวันอาทิตย์สีแดง กล่าวอีกว่า ส่วนการเดินทางมาเชียงรายวันนี้เพื่อมาแสดงออกเชิงสัญลักษณ์เหมือนที่ดำเนินการอยู่ที่กรุงเทพฯ และตนมีความคิดว่าจะเดินทางไปแสดงออกดังกล่าวในพื้นที่ต่างจังหวัด แต่จะดูรูปแบบเพื่อความเหมาะสม และเพื่อให้เข้ากับสถานการณ์ในแต่ละพื้นที่ หลังจากนี้จะมีการกำหนดรูปแบบเพื่อความชัดเจนอีกครั้ง และเชื่อว่าหากไปที่จังหวัดใดจะได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดี และการเดินทางไปในแต่ละพื้นที่ตนก็ไม่รู้สึกกังวล เพราะเราไปแสดงออกตามสิทธิขั้นพื้นฐานของเรา เราไม่ได้ไปก่อความรุนแรงแต่อย่างใด เพียงแต่เราไปนำเสนอข้อเท็จจริงให้สังคมได้รับรู้
จี้เลิกกฎหมายฉุกเฉิน
"ทั้งนี้อุปสรรคในการแสดงออกในขณะนี้มีเพียงอย่างเดียวคือพ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพราะพ.ร.ก. ประกาศออกมาเพื่อตามเข่นฆ่าประชาชนที่มีแนวความคิดที่เห็นต่าง แต่ที่ผ่านมาแสดงให้เห็นแล้วว่า ถึงแม้รัฐจะมีมาตรการทำให้ประชาชนหวาดกลัวเพียงใด ประชาชนก็ยังกล้าแสดง ออก สุดท้ายแผนปรองดองหรือปฏิรูปการเมืองก็จะไม่บรรลุผลสำเร็จ เพราะพ.ร.ก.ฉุกเฉินคืออุปกรณ์กำจัดปัญหาทางการเมือง" นายสมบัติกล่าว
นายสมบัติกล่าวต่อว่า การที่เราออกมาแสดงออกนั้นไม่ใช่การท้าทายอำนาจรัฐแต่อย่างใด แต่เพื่อแสดงออกตามสิทธิของประชาชน ที่พึงมีตามรัฐธรรมนูญ และการถือป้ายสัญ ลักษณ์สีแดงก็ไม่ใช่การท้าทายแน่นอน เพียง แต่รัฐกำลังเอาเหตุการณ์ของสีแดงมาท้าทายประชาชน ทั้งละเมิดสิทธิ์ จำกัดสิทธิ์ ทำให้เข้าใจได้ว่า ผู้มีอำนาจรู้ว่าเหตุการณ์การแสดง ออกรูปแบบเชิงสัญลักษณ์ อาจจะไปทำความวุ่นวายรบกวนรัฐ ทำให้ผู้มีอำนาจไม่พอใจ จึงได้แสดงศักยภาพทางอำนาจให้ประชาชนเห็น ดังนั้นรัฐต้องเร่งสร้างบรรยากาศที่ดี เปิดพื้นที่ให้แดงมีพื้นที่แสดงออกทางการเมืองอย่างสร้างสรรค์ เพื่อประโยชน์กับสังคม รวมถึงเร่งสร้างสังคมความขัดแย้งด้วยความเป็นกลางเป็นธรรม สุดท้ายต้องยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินทั้งหมด เพราะคนที่แสดงออกทางการเมือง ไม่ใช่ผู้ก่อการร้าย อย่างที่รัฐบาลคิด
ชูข้าวแดงสัญญาณถึงแดงทุกจว.
จากนั้นคณะทั้งหมดพากันไปยังศูนย์อาหารของห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี สาขาเชียงราย เพื่อรับประทานข้าวแดง เพื่อเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ โดยนายสมบัติระบุว่าต้องการให้ข้าวแดงเป็นสัญญาณไปยังคนเสื้อแดงทุกจังหวัดให้ออกมาทำกิจกรรมเหมือนกันอีก
นายสมบัติกล่าวด้วยว่า หลังจากนี้จะเดินทางกลับกรุงเทพฯ เพื่อมาทำกิจกรรมแดงเข้มแข็ง เดินวิ่งเพื่อสุขภาพ พร้อมกับเพื่อนๆ กลุ่มวันอาทิตย์สีแดง ที่สวนสันติภาพ ย่านอนุสาวรีย์ชัย สมรภูมิ วันอาทิตย์ที่ 8 ส.ค.นี้ ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวเป็นกิจกรรมเชิงสนุกสนาน ไม่น่ากลัว ไม่น่าตกใจ และเชื่อว่ารัฐบาลคงไม่สั่งห้ามด้วยการปิดสวนสันติภาพ
เด็กเชียงรายลั่นตกเป็นเหยื่อ
นายกิตติพงษ์ นาตะเกศ นักศึกษามหา วิทยาลัยราชภัฏเชียงราย เปิดเผยถึงการถูกตั้ง ข้อหาละเมิดพ.ร.ก.ฉุกเฉินว่า ตนยืนยันว่าการแสดงออกด้วยการชูป้ายข้อความแสดงออกทางการเมืองเป็นสิทธิ์ที่เราทำได้ และการที่ถูกแจ้งข้อหาละเมิดพ.ร.ก.ฉุกเฉินก็เป็นสิ่งไม่ถูกต้อง แรงเกินไป เพราะเราไม่ได้ทำร้ายใคร ไม่ได้สร้างความเสียหายให้กับบ้านเมือง เพียงแต่เราต้องการสะท้อนข้อเท็จจริงที่ได้เห็นที่ได้รับรู้ และที่สำคัญตนอยากให้รัฐยกเลิกพ.ร.ก.ให้หมด และหันมาใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงจะดีกว่า เพราะ พ.ร.ก.ดังกล่าวเป็นต้นเหตุทำให้ตนได้รับความเดือดร้อน
นายกิตติพงษ์กล่าวว่า กิจกรรมที่ตนทำที่ผ่านมาไม่มีใครอยู่เบื้องหลัง ไม่มีใครมาสั่งทั้งสิ้น แต่เป็นการพูดคุยกับเพื่อนที่สนิท และเห็นตรงกันว่าอยากแสดงออกเท่านั้น ไม่ได้ต้องการเด่นหรือดังแต่อย่างไร เพียงแต่ต้องการล้อเลียนพ.ร.ก.เท่านั้น และการที่ต้องออกมาพูดทุกวันนี้ เพราะกลัวว่าเรื่องจะเงียบหายไป และเราจะตกเป็นเหยื่อ การที่เจ้าหน้าที่รัฐออกมาระบุว่ามีคนอยู่เบื้องหลังให้ทำกิจกรรมดังกล่าวถือว่าเป็นการดูถูกความคิดของพวกเรา ที่ผ่านมาเราติดตามข่าวสารบ้านเมือง เราเห็นว่าที่ราชประสงค์มีคนตายจากการกระชับพื้นที่ เราไม่ได้ว่ารัฐผิด หรือรัฐเป็นผู้กระทำ แต่เมื่อไม่มีการดำเนินการตรวจสอบ และเรื่องเงียบหายไป เราจึงออกมาแสดงออกเท่านั้น ช่วงที่ออกมานั้นก็ไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องใหญ่โต แต่มาถึงจุดนี้เราก็ต้องว่าไปตามกระบวนการ
เผยกระชับพื้นที่ยิงเพื่อนตาบอด
"เพื่อนผมที่ชื่อเบิร์ด เรียนจบแล้ว รับปริญญาแล้ว ไม่ใช่คนเสื้อแดง เพียงแต่ไปส่งอาหารที่คนเสื้อแดงชุมนุมจนถูกยิงเข้าที่ตาจนตาบอดไปข้างหนึ่ง จากเหตุการณ์กระชับพื้นที่ จนต้องเสียอนาคต แต่จนบัดนี้รัฐบาลไม่เคยดูแลหรือเยียวยาเพื่อนผมเลย รวมถึงประชาชนที่อยู่ในเหตุการณ์ช่วงเดือนพฤษภาฯ ที่ได้รับบาด เจ็บจำนวนมากจากเหตุการณ์นั้นก็ยังไม่ได้รับการเยียวยา แต่ในขณะที่อีกกลุ่มหนึ่งที่ชื่นชอบรัฐบาลกลับได้รับการเยียวยาอย่างดี เป็นเรื่องที่ไม่เท่าเทียมกัน 2 มาตรฐาน ตรงจุดนี้จึงจุดประกายให้ผมกล้าออกมาทำกิจกรรมดังกล่าว"
"อย่างไรก็ตามในวันที่ 9 ส.ค.ทางกรรมการสิทธิมนุษยชนได้เชิญตนไปให้ข้อมูล ซึ่งตนก็จะเดินทางไปชี้แจง และเล่าข้อเท็จจริงทั้งหมดให้ผู้ใหญ่ได้รับฟัง" นายกิตติพงษ์กล่าว
ลั่นจิตสำนึกสั่ง-ไม่มีใครจ้าง
ด้านนายนิติเมธพนฏ์ เมืองมูลกุลดี นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย เปิดเผยว่า ตนไม่ได้คลั่งเสื้อแดง ไม่ได้รังเกียจรัฐบาล แต่เหตุการณ์ที่ผ่านมาเป็นเรื่องของความไม่ยุติ ธรรม และไม่เป็นธรรมทางสังคม เพราะมี การดำเนินการใน 2 มาตรฐาน จึงได้กล้าที่จะแสดงออก ส่วนการแสดงออกก็เป็นการชูป้ายข้อความที่เป็นข้อเท็จจริงเฉยๆ ไม่คิดว่าจะใหญ่โตจนต้องถูกดำเนินคดีในข้อหาละเมิดพ.ร.ก. ทั้งที่ก่อนหน้านี้นายกรัฐมนตรีก็เคยให้สัมภาษณ์ว่าประชาชนสามารถที่จะแสดงออกทางการเมืองได้ เราจึงได้แสดงออกตามสิทธิของเรา
"ที่ผ่านมาทั้งคนเห็นด้วย และคนชื่นชม ผลสะท้อนมีทั้งดีและไม่ดี แต่ที่ไม่ดีตรงที่กล่าวหาว่าเราเป็นพวกหางแดง กล่าวหาว่าเราไปรับเงินมาทำกิจกรรมไม่คุ้มกับที่โดนข้อหาขัดพ.ร.ก. ทั้งที่จริงแล้วเราไม่ได้รับเงินใครสักบาทเดียว ทำด้วยจิตสำนึกของเรา ป้ายที่เราเอาไปชูก็เป็นเงินของเราทั้งนั้น และที่สำคัญไม่มีใครมาจูงความคิดเราได้ ไม่มีใครอยู่เบื้องหลังเรา เราคิดของเราเอง" นายนิติเมธพนฏ์กล่าว
นายนิติเมธพนฏ์กล่าวด้วยว่า ส่วนในวันที่ 9 ส.ค.นี้ก็พร้อมเดินทางไปให้ข้อมูลกับทางกรรม การสิทธิมนุษยชน เพราะตรงนี้คือหนทางเดียวที่จะช่วยพวกเราได้
เด็กม.5 โวยตามข่มขู่ถึงพ่อแม่
ด้านน้องนักเรียนชั้นมัธยมปีที่ 5 เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ที่ผ่านมาได้รับได้กำลังใจจากหลายฝ่าย แต่ขณะนี้รู้สึกเหมือนไม่ปลอดภัย เพราะมีเจ้าหน้าที่คอยติดตามการเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะทำอะไรดูเหมือนเจ้าหน้าที่จะรู้ไปหมดว่าเราอยู่ที่ไหน ทำอะไร แต่ยืนยันว่าตนไม่ผิด เพราะที่ผ่านมาเราทำดีที่สุดแล้ว ไม่คิดว่าเรื่องราวจะใหญ่โตขนาดนี้ ช่วงแรกรู้สึกกลัว แต่จนถึงขณะนี้ไม่กลัวแล้ว แต่ขออย่างเดียวอย่ามาข่มขู่คุกคามแม่กับพ่อ เพราะสงสารท่าน พวกท่านไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ หากจะคุกคามมาคุกคามที่ตนคนเดียวดีกว่า
"ที่ผ่านมาก็โทรศัพท์เข้ามามีเจ้าหน้าที่โทร ศัพท์เข้ามาที่มือถือของแม่ รวมถึงบอกว่าหากไม่ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ก็ขู่ว่าจะย้าย พ่อให้ไปอยู่ที่กันดาร ทั้งที่ท่านทั้งสองไม่ได้เกี่ยวข้อง ตอนนี้ผมสงสารพ่อและแม่ที่ต้องมาได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว" เด็ก ม.5 กล่าว
น้อง ม.5 กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาไม่ว่าเจ้าหน้าที่จะเรียกเราไปทำอะไรเราก็ไป และช่วงที่เจ้าหน้าที่ให้ไปทดสอบสติเชาวน์ปัญญา เราก็ไป ให้เราทำแบบทดสอบนานกว่า 3 ชั่วโมง ให้ทั้งวาดภาพคน ต้นไม้ บ้าน พร้อมทั้งอธิบายความเชื่อมโยงของรูปภาพ เราก็อธิบาย สุดท้ายให้ทำแบบทดสอบ 60 ข้อ เราก็ทำจนครบ แต่เมื่อส่งแบบทดสอบเจ้าหน้าที่ยังไม่ทันตรวจ กลับให้เราต้องไปบำบัดจิต ในวันที่ 16-17 ส.ค. ซึ่งตนก็พร้อมที่จะไป ทำตามที่เขาสั่ง เพราะต้องการไปพิสูจน์ว่าเราไม่ได้บ้า และตนก็พร้อมไปชี้แจงกับทางกรรมการสิทธิ์ในวันที่ 9 ส.ค.นี้
แม่วอนเลิกคุกคามครอบครัว
ด้านแม่น้อง ม.5 กล่าวว่า ทุกวันนี้รู้สึกกลัวมาก มีโทรศัพท์แปลกๆ โทร.เข้ามาบ่อย และช่วงแรกก็มีตำรวจมาสังเกตการณ์ที่บ้านบ่อยๆ จึงกลัวไม่ปลอดภัยในชีวิต รวมทั้งเป็นห่วงลูกมาก กลัวว่าลูกจะได้รับอันตราย ทั้งที่เขายังเป็นเด็กอยู่ ซึ่งที่ผ่านมาเราก็ให้ความร่วมมือมาโดยตลอดไม่ว่าจะให้ไปให้ข้อมูลที่ไหนเราก็พร้อมไป แต่ขอให้กำหนดเวลามา
"ยอมรับว่ากลัวมาก ทุกวันนี้ต้องค่อยจดบันทึกส่วนตัวเป็นประจำวันไว้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับเราบ้าง แต่ที่อยากขอร้องมากที่สุดคือ ขอให้เลิกคุกคามครอบครัวเราได้หรือไม่ เราพร้อมให้ความร่วมมือทุกอย่าง ทุกวันนี้สงสารลูกมาก ซึ่งช่วง 2-3 วันที่ผ่านมานั้นมีนายตำรวจโทรศัพท์มาหาเราบอกว่าลูกหายไปไหน ทั้งที่เขาก็รู้ว่าลูกเราไปไหน อย่าโทร.แบบนี้อีกเลยเราตกใจ รวมถึงโทร.มาหาเรา บอกว่าเราโทรศัพท์ไปแจ้งกับทางพรรคเพื่อไทยว่าลูกหาย ซึ่งเราก็ยืนยันว่าเราไม่มีศักยภาพพอ ไม่มีอำนาจขนาดนั้น ซึ่งเราก็สาบานไปกับเขาว่าเราไม่ได้ฟ้องใคร และที่ผ่านมาเราคิดลึกถึงขนาดจะพาลูกไปขอโทษนายกฯ ด้วย แต่ตอนนี้เรื่องบานปลายไปมากแล้ว เราจึงได้แต่ขอร้องเท่านั้น" แม่เด็กกล่าว
Love illusion ความรักลวงตา เพลงที่เข้ากับสังคมonline
Love illusion Version 2คนฟังเยอะ จนต้องมี Version2กันทีเดียว
Smiling to your birthday เพลงเพราะๆ ไว้ส่งอวยพรวันเกิด หรือร้องแทน happybirthday