นายกเตรียมถกปมพระวิหาร ถ่ายสดทีวี หาข้อยุติMOU43

นายกรัฐมนตรี เตรียมหารือ ตัวแทนเครือข่ายภาคีคนไทยหัวใจรักชาติ พิจารณาเอ็มโอยู ปี 2543 พรุ่งนี้ ถ่ายทอดสดทีวี 3 ชั่วโมง ย้ำ เป็นประโยชน์ป้องกันกัมพูชาหันกลับไปใช้แผนที่ฝรั่งเศส....

เว็บไซต์ผู้จัดการ รายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 13.45 น. วันที่ 7 ส.ค. 2553 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี

ได้ขึ้นเวที ตอบข้อซักถามของทางเครือข่ายภาคีคนไทยหัวใจรักชาติ ที่สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง ทั้งนี้ ตัวแทนชาวบ้านจาก อ.กันทรลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ ได้สอบถามนายกฯ ถึงการลงนามเอ็มโอยู ปี 2543 สมัยรัฐบาล นายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรี หากจะให้มีการยกเลิกจะติดขัดหรือไม่ และรัฐบาลขณะนี้จะทำอะไรได้บ้าง รวมทั้งมีเรื่องไหนที่จะให้ประชาชนช่วยได้บ้าง

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ก่อนที่จะตอบข้อซักถาม ขอทักทายพี่น้อง

ซึ่งตนได้ติดตามการเคลื่อนไหวของพี่น้องประชาชนทุกคนที่ห่วงใย และแสดงออกเคลื่อนไหวต่อการรักษาอธิปไตยของไทย ซึ่งก่อนหน้านี้ได้คุยกับแกนนำที่ร่วมเคลื่อนไหวหลายครั้ง ทั้งนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ร.ต.แซมดิน เลิศบุตร ที่ได้หารือกันเมื่อวานนี้ ซึ่งอยากเรียนให้พี่่น้องประชาชนทราบว่าเราไม่ได้คิดต่างกัน รวมทั้งไม่ได้มีผลประโยชน์อื่นใดแอบแฝงนอกจากผลประโยชน์ของชาติ และขอยืนยันว่าไม่มีเหตุผลอะไรที่จะเอาแผ่นดินไทยไปแลกเปลี่ยนกับผลประโยชน์ อื่น

"ถ้าผมทำเช่นนั้น ไม่เพียงไม่ควรเป็นนายกรัฐมนตรี แต่ไม่ควรที่จะอยู่แผ่นดินนี้ด้วยซ้ำ และขอยืนยันว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ วันที่เป็นผู้นำฝ่ายค้านที่อภิปรายในสภาฯไว้อย่างไร จุดยืนวันนี้ในฐานะที่เป็นนายกรัฐมนตรี ยังเหมือนเดิมทุกประการ เมื่อเป็นเช่นนี้ สิ่งที่อยากจะขอร้องประชาชนทุกกลุ่มสิ่งสำคัญที่สุดคือ เราต้องสามัคคี เป็นเอกภาพร่วมกันตามเป้าหมายของเรา"นายอภิสิทธิ์ ระบุ


นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า จุดยืนของไทยเหมือนเดิม

ซึ่งรัฐบาลไทยดำเนินการเช่นนั้นมาตลอด แม้ทางกัมพูชาจะพยายามใช้แผนที่ 1 ต่อ 200,000 ไปอ้างสิทธิ์ต่างๆ ซึ่งตนได้มีการคัดค้านมาตลอด โดยรัฐบาลได้แจ้งกลับไปทางกัมพูชาแล้วว่า แผนที่ดังกล่าวเป็นโมฆะ ล่าสุด กัมพูชาได้พยายามอีกครั้ง ในการเอาแผนที่แนบท้ายยื่นขอเป็นมรดกโลก จนมีการเลื่อนมติพิจารณาออกไปเป็นปีหน้า ทำให้ขณะนี้กัมพูชาไม่อาจใช้แผนที่ดังกล่าวได้

"ผมขอยืนยันว่าการมีเอ็มโอยูนั้น ส่งผลให้กัมพูชานำแผนที่มาอ้างไม่ได้ ดังนั้น เราไม่ได้เห็นต่างกัน เพียงแต่ต้องทำความเข้าใจให้ตรงกัน เรามีเจตนาเหมือนกันในการรักษาแผ่นดินไทย หากทางไหนที่คิดว่าดีกว่า ผมกพร้อมยินดีทำ ถ้าเห็นว่ายกเลิกเอ็มโอยูดีกว่า ผมก็พร้อมจะเลิก แต่ถ้าคุยกันแล้ว ไม่ยกเลิกดีกว่า ก็ต้องว่ากันไปตามนั้น แต่ขอยืนยันว่าจะคำนึงถึงผลประโยชน์ประเทศเป็นหลัก เราจะใช้สันปันน้ำมาต่อสู้เรื่องนี้" นายอภิสิทธิ์ กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า ในวันพรุ่งนี้ ถือเป็นจุดเริ่มต้นของรัฐบาล โดยหลังจากจบรายการเชื่อมั่นประเทศไทยฯ จะจัดรายการพิเศษ

ตั้งแต่เวลา 10.00-13.00 น. ซึ่งจะเชิญผู้แทนเครือข่ายฯ ไม่เกิน 5 คน รวมทั้งฝั่งตน มาร่วมพูดคุยกัน ต่อจากพรุ่งนี้ การทำงานของรัฐบาลจะเปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายเข้ามามีส่วนร่วม เพื่อให้ทุกฝ่ายมีความเข้าใจที่ตรงกัน ทั้งนี้ หลัง นายอภิสิทธิ์ กล่าวจบ ตัวแทนเครือข่ายฯ ได้ลุกขึ้นถามถึง กรณีมีชาวกัมพูชามาตั้งรกรากอยู่ในแผ่นดินไทย รัฐบาลจะดำเนินการอย่างไร นายกรัฐมนตรี กล่าวตอบว่า ปัญหานี้เกิดขึ้นมา 5-6 ปีแล้ว ต้องยอมรับว่า มีการละเมิดข้อตกลงเอ็มโอยู แน่นอน ดังนั้น สิ่งที่รัฐบาลต้องทำต่อไป คือ มีมาตรการทูต และ การทหารควบคู่กันไป โดยในส่วนการทูต จะใช้เวทีระดับประเทศ ชี้แจงสถานการณ์ความเป็นจริงเรื่องนี้ เราจะต้องทำความเข้าใจ เพื่อสร้างความได้เปรียบ ซึ่งประเด็นนี้ตนได้บอก รมว.ต่างประเทศ ไปว่า ให้มีการประสานงานกับกระทรวงกลาโหมและกองทัพ ตนขอยืนยันว่าจะทำการประท้วงรักษาสิทธิ์ และ เดินหน้า เพื่อให้มีการเคารพข้อตกลงที่ว่า ตนจะพูดคุยปรึกษาให้การประสานงานเรื่องนี้สอดคล้องกัน เราจะไม่ยอมรับการกระทำที่เป็นการละเมิดข้อตกลงดังกล่าว

เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์