สุเทพเมินบิ๊กจิ๋วปัดคนแก่เบื้องหลังบึม

โดดรับลูกข่าวกรองฯ เตือนแก๊งบึมจ้องก่อวินาศกรรมป่วนย่านธุรกิจต้น ส.ค.ลั่นไม่อยากให้แตกตื่นไม่ประมาท สั่งจนท.ทำงานให้เข้มแข็ง เพื่อรับมือและสกัดยับยั้งเหตุร้ายได้ทันเวลา...

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและผอ.ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน(ศอฉ.)

กล่าววันนี้ (3 ส.ค.) ถึง กรณีที่มีข่าวว่าทางสำนักข่าวกรองแห่งชาติออกมาเตือนว่า จะมีเหตุคาร์บอมบ์ในย่านธุรกิจสำคัญ เช่น ถนนสีลม และ ถนนเยาวราช ประมาณต้นเดือนส.ค. ว่า ต้องไปถามรายละเอียดจากสำนักข่าวกรองฯว่าเขาได้ข่าวอย่างไร ตนยังไม่ได้ลงไปในรายละเอียด แต่เรื่องการข่าวตนได้สั่งการไปว่าทุกหน่วยงานที่ทำหน้าที่ทางด้านฝ่ายข่าว ต้องบูรณาการกำลัง เพื่อที่จะติดตามดูว่ามีคนกลุ่มไหนที่มีพฤติกรรมที่อาจจะเป็นภัยต่อความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการก่อวินาศกรรมบ้าง และเราจะได้หาทางสกัดกั้นยับยั้งป้องกันหตุร้ายให้ทันเวลา

รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กล่าวต่อว่า กรณีที่เป็นข่าวขึ้นมานี้อาจจะเป็นไปตามสิ่งที่ได้สั่งการเอาไว้ก็ได้

ขณะที่การเคลื่อนไหวก่อวินาศกรรมดังกล่าวทางเจ้าหน้าที่มีการติดตามการเคลื่อนไหวมากแค่ไหน คงตอบแบบให้ลงลึกในรายละเอียดไม่ได้ แต่ว่าได้สั่งการอย่างนั้นแล้ว และเจ้าหน้าที่จะต้องไปดำเนินการ ขณะที่การข่าวระบุว่า พื้นที่เป้าหมายที่จะก่อวินาศกรรมเป็นย่านธุรกิจสำคัญ ก็คิดว่าเรารับฟังข่าวไว้ก็แล้วกัน และก็ไม่ประมาทแต่ก็อย่าไปแตกตื่นให้มากนัก เราก็มีหน้าที่ที่จะต้องดูแลปกป้องบ้านเมืองของเรา ฝ่ายต่าง ๆ ก็จะต้องทำงานให้เข้มแข็งขึ้น

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีที่วานนี้ (2 ส.ค.) พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย

ออกมาปฏิเสธว่าไม่ใช่คนแก่ที่อยู่เบื้องหลังเหตุระเบิด ตามที่พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผบช.น.ออกมาให้ข้อมูลมาหลายวัน และตามที่ท่านได้ดักคอเอาไว้ว่าคนแก่จะออกมาพูดเอง ตกลงพล.อ.ชวลิตใช่คนแก่ที่หมายความถึงหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนคงไม่ตอบแล้วเรื่องนี้ ตอบไปก็จะเป็นการต่อความยาวสาวความยืด

เมื่อถามว่า ด้วยความที่ยังมีการเคลื่อนไหวอยู่ อย่างนี้ เป็นเหตุให้ยังต้องคง พ.ร.ก.ฉุกเฉินในกรุงเทพฯ และปริมณฑลต่อไปใช่หรือไม่

รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กล่าวด้วยว่า เรื่อง พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เมื่อถึงเวลาก็จะชี้แจง วันนี้ยังไม่มีอะไรที่จะต้องไปพิจารณาเรื่องการยกเลิก พ.ร.ก. ส่วนเรื่องที่ทางแม่ทัพภาคที่ 3 ระบุว่าสถานการณ์ใน จ.เชียงใหม่ และเชียงราย มีความสงบเรียบร้อยพอที่อาจจะยก เลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ได้แล้วนั้น เวลาที่มีรายงานเข้ามาตนก็จะนำไปพิจารณาในที่ประชุม ศอฉ.แต่ขณะนี้ยังไม่มีการเสนอมาแต่อย่างใด