“สัณฐาน”มั่นใจมือบึ้มสนิท“เสธ.แดง”

เผยส่งข้อมูลเชื่อมโยงคดีระเบิดถึงมือดีเอสไอแล้ว พร้อมออกหมายจับ มั่นใจมือบึ้มสนิท “เสธ.แดง”

เมื่อวันที่ 2 ส.ค. พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผบช.น. กล่าวถึง ความคืบหน้าคดีระเบิดในพื้นที่ สน.ลุมพินี และ สน.พญาไท ว่า หลังจากชุดสืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดีระเบิดนำโดย พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา  ที่ปรึกษา (สบ10) ได้พยานหลักฐาน ทั้งหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ และพยานบุคคลแล้ว จะส่งมอบให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เจ้าของสำนวนขออนุมัติหมายจับต่อไป ซึ่งขณะนี้ดีเอสไอได้ประสานมายังนครบาลแล้ว ในการขอตัวพยานไปสอบปากคำเพิ่มเติม ส่วนผู้ต้องหาที่เหลืออีก 2-3 คนนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจะไล่ล่าติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีให้ได้ เท่าที่ตรวจสอบมีข้อมูลว่า ขณะนี้มี 2 คนที่เข้า ๆ ออก ๆ อยู่ชายแดนกัมพูชา (เขมร)
 
ต่อข้อถามว่า การที่ตำรวจออกมาเปิดเผยข้อมูลครั้งนี้ จะทำให้ผู้ต้องหาไหวตัวทันแล้วหลบหนีออกนอกประเทศกัมพูชาหรือไม่ ผบช.น.ชี้แจงว่า ความจริงแล้วการเปิดเผยข้อมูล เพื่อให้สังคมช่วยกันดูแล

 เพราะไอ้พวกนี้เวลามันไปแล้วกลับเข้ามาอีก ถ้าเรารู้จักหน้ารู้จักตัว ช่วยกันแจ้งเบาะแสให้ตำรวจจับกุม และจับได้หมดไม่ว่าจะเข้าทางจังหวัดศรีสะเกษ ทางไหน หากเราจับได้หมดก็จะเป็นการดี ซึ่งวันนี้ทางดีเอสไอคงจะไปขออนุมัติหมายจับแล้ว

“หน้าตาตรงกันหมดเลย ฉะนั้น กลุ่มนี้เชื่อมโยงกันไปหมดอย่างน้อย 3-4 คดี เราก็รู้ว่าผู้ต้องหาคือใคร ส่วนจะเชื่อมโยงไปถึงตัวใหญ่ หรือแกนนำด้วยหรือไม่นั้น ยังไม่อยากพูดถึง เพราะแน่นอนอยู่แล้วว่าพวกนี้คงไม่ทำเองแน่ และผมก็ไม่เชื่อว่าพวกนี้จะประกอบวัตถุระเบิดเป็น ต้องมีคนทำให้อย่างแน่นอน และผมก็ยังยืนยันอย่างมั่นใจด้วยว่า คนที่ทำระเบิด และกลุ่มที่วางระเบิดเป็นกลุ่มเดียวที่มีความสนิทสนมกับเสธ.แดง อย่างแน่นอน “ผมมั่นใจ” ส่วนจะมีหลักฐานอะไรยืนยันเชื่อมโยงกับเสธ.แดง หรือไม่ ต้องรอดู” ผบช.น. กล่าว

นอกจากนี้ ผบช.น. ยังกล่าวถึง มาตรการป้องกันอาชญากรรม และการก่อการร้ายการเฝ้าระวังเหตุวางระเบิด ว่า
 
ได้ระดมกำลังตำรวจนครบาล 1-9 ประมาณ 687 นาย ร่วมกับอาสาสมัครตำรวจบ้าน 45 คน รถยนต์จู่โจมเคลื่อนที่เร็ว 68 คัน และรถจักรยานยนต์สายตรวจ 205 คัน หน่วยอรินทราช ชุดปฏิบัติการเก็บกู้วัตถุระเบิด และสุนัขตำรวจเข้าร่วม โดยเริ่มปฏิบัติการตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา ต่อเนื่องตลอดเดือนสิงหาคม เพราะเป็นเดือนที่สำคัญ จึงออกระดมอาชญากรรม และยาเสพติดควบคู่ไปด้วย