“เฮียเม้ง”ผวาขอกองปราบคุ้มครอง

ผวาภัยมืด “เฮียเม้ง” บุกกองปราบขอกำลังคุ้มครองดูแลความปลอดภัย หลังพบชายฉกรรจ์วนเวียนหน้าบ้าน

ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 29 ก.ค. นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย พา นายธีรชัย ธำรงพงศกร หรือ “เฮียเม้ง” อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 391 ถนนเจริญพัฒนา แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กทม. เจ้าของ บริษัท มังกรเหิรฟ้า จำกัด ซึ่งอ้างว่าเป็นผู้โอนเงิน จำนวน 1.5 แสนบาท เข้าบัญชีธนาคารของ นางวรรษมล เพ็งดิษฐ์ ภรรยานายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพื่อวิ่งเต้นเรื่องการเสียภาษีสรรพากร เข้าพบ พ.ต.ท.มาโนชญ์ สวนดอกไม้ พงส.(สบ2) กก.1 บก.ป.เพื่อขอลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ภายหลังมีคนมาวนเวียนที่บริเวณบ้านพัก และมีโทรศัพท์จากชายลึกลับอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ดีเอสไอขอเคลียร์ปัญหาที่เกิดขึ้น ทำให้ตน และคนในครอบครัวรู้สึกไม่ปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สิน

นายธีรชัย กล่าวว่า เมื่อวันที่ 27 ก.ค.ที่ผ่านมา ก่อนที่ตนจะเดินทางไปแถลงข่าวที่พรรคเพื่อไทย มีโทรศัพท์จากชายซึ่งอ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ แต่ไม่ยอมบอกชื่อ เรียกตนว่า “ป๋า”

แล้วบอกว่ายินดีจะคืนเงินทั้งหมดที่ตนเคยโอนให้กับนางวรรษล แลกกับการให้ตนยุติเรื่องราวที่เกิดขึ้น พร้อมกับสอบถามเลขบัญชีเงินฝากของตน ซึ่งจริงแล้วตนก็อยากได้เงินคืน แต่เกรงว่าอาจจะเป็นการหลอกลวง จึงปรึกษากับ ส.ส.พรรคเพื่อไทย เพราะตนไม่มีความรู้ทางกฎหมาย จึงได้รับคำแนะนำให้เข้าแจ้งความ โดยช่วงที่ตนไปแถลงข่าวที่พรรคเพื่อไทยก็ไม่มีโทรศัพท์มาหาอีกเลยจนถึงขณะนี้

นายธีรชัย กล่าวอีกว่า ตนได้สาบานไปแล้วว่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดเป็นความจริง ไม่เช่นนั้นก็ขอให้วิบัติมีอันเป็นไป

แต่กลับกันหากเป็นจริงทั้งหมดก็ขอให้ผู้ที่เกี่ยวข้องได้รับผลเช่นเดียวกัน ปัญหาที่เกิดขึ้นของตนมีเพียงเรื่องเดียวคือเรื่องภาษี ที่ผ่านมาตนก็ประกอบอาชีพเป็นฟรีแลนซ์ รับจัดหาอุปกรณ์จัดงานต่าง ๆ เช่น เต๊นท์เช่า โต๊ะ เก้าอี้ มีรายได้จากค่าหัวคิว พอไปเก็บเงินจากบริษัทที่ว่าจ้างส่วนใหญ่เขาก็ไม่ได้ออกใบเสร็จให้ พอพบว่าสรรพากรมาเรียกเก็บเงินภาษีเป็นจำนวนมากก็ต้องหาหนทางวิ่งเต้นเรื่องนี้

ขณะที่ นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า ในวันที่ 3 ส.ค.นี้ ตนพร้อมทีมทนายความจะเดินทางเข้าร้องทุกข์ ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)

เพื่อดำเนินคดีกับนางวรรษล ในข้อหาปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 จากกรณีที่เกิดขึ้นเพราะถือว่าเป็นการทุจริตต่อหน้าที่

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงาน นายธีรชัย ได้ขอกกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามไปคุ้มครองความปลอดภัยด้วย เนื่องจากเมื่อคืนที่ผ่านมามีกลุ่มชายฉรรจ์ได้มาวนเวียนอยู่บริเวณหน้าบ้าน