ยันบ้านเอื้ออาทรโปร่งใส เชื่อหลักฐานในมือเคลียร์ได้

วานนี้ (10 พ.ย.) นายแก้วสรร อติโพธิ เลขานุการคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ในฐานะผู้ดูแลการตรวจสอบทุจริตโครงการบ้านเอื้ออาทร กล่าวถึงความคืบหน้าในการตรวจสอบโครงการดังกล่าวว่า คณะอนุกรรมการได้วางแผนการตรวจสอบไว้ทั้งหมดแล้วว่า

จะสอบพยานที่ไหน อย่างไร และจะลงพื้นที่ไปตรวจสอบอย่างไร ทั้งนี้ พยานที่จะต้องสอบปากคำในคดีนี้มีกว่า 50 คน จากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คาดว่าภายใน 2 เดือน จะตรวจสอบเสร็จ สำหรับเรื่องการขอเอกสารจากหน่วยงานต่างๆ ได้ประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว

ขณะที่นางชวนพิศ ฉายเหมือนวงศ์ อดีตผู้ว่าการเคหะแห่งชาติ (กคช.) กล่าวถึงกรณีที่นายแก้วสรรตรวจสอบโครงการบ้านเอื้ออาทร โดยระบุว่า มีหลักฐานข้อมูลสามารถเอาผิดเจ้าหน้าที่ กคช. และนักการเมืองที่เรียกรับเงินจากบริษัทรับเหมาก่อสร้างเป็นค่าลงนามอนุมัติโครงการยูนิตละ 15,000 บาท ว่า เรื่องนี้เป็นกล่าวหาลอยๆ อยากให้คตส.แสดงหลักฐานให้ชัดเจน ระบุ มาเลยว่าใครเข้าไปเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ในเรื่องนี้บ้าง

การพูดลอยๆ ทำให้ กคช.เสียหาย ตนรู้สึกสงสารมาก ในช่วงที่เป็นผู้ว่า กคช. ได้ดำเนินการโครงการนี้อย่างถูกต้องตามระเบียบ มีการประกาศให้ผู้ประกอบการมาเสนอโครงการ เพราะเห็นว่าการก่อสร้างตั้งแต่ปี 2546 มีความล่าช้าไม่เป็นไปตามเป้าหมาย โดยตั้งแต่ปี 2547 กคช. สร้างบ้านเอื้ออาทรได้ 30,000-40,000 ยูนิต ปี 2548 จำนวน 60,000 ยูนิต

อดีตผู้ว่าการเคหะแห่งชาติ กล่าวว่า ในการก่อสร้างดังกล่าวถือว่ามีจำนวนยูนิตที่น้อย ทำให้ปี 2549 กคช.จึงเปิดให้ผู้ประกอบการที่มีความสามารถหาแบงก์การันตีมาวางในวงเงิน 5% ของโครงการ ทำให้การก่อสร้างในช่วงท้ายมีจำนวนยูนิตเพิ่มขึ้นเป็นแสนยูนิต ซึ่งก็ไม่ได้ส่งผลให้มีปัญหาเรียกหัวคิว เพราะผู้ประกอบการที่จะเข้ามาดำเนินการจะต้องผ่านขั้นตอนการตรวจสอบหาแบงก์การันตี 5 % นำที่ดินมาเสนอทำแบบแปลนก่อสร้างและกคช.ยังต้องจ้างบริษัทประเมินราคามาตรวจสอบ จึงเป็นการยากที่จะมีการเรียกรับหัวคิวเกิดขึ้น ทั้งหมดนี้ตนมีรายละเอียดเป็นหลักฐานชัดเจน สามารถยืนยันข้อกล่าวหาของ คตส.ได้ ตนมั่นใจเมื่อคตส.เรียกไปตรวจสอบจะคลายความสงสัยลง

"ดิฉันคิดว่าการกล่าวหาโดยไม่มีหลักฐานเป็นการแย่ ตลอดการทำงานที่ผ่านมา เราและลูกน้องไม่เคยนอกลู่นอกทางเราตั้งใจทำงานอย่างดีที่สุดกับนายพรศักด์ บุณโยดม ผู้ว่ากคช.ก็เคยทำงานร่วมกันมาก่อน ดิฉันจะรอดูว่าคตส.จะแสดงหลักฐานตามที่มีการกล่าว หาอย่างไรต่อไป"นางชวนพิศ กล่าว

แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ