"องอาจ" เชื่อกรณีดีเอสไอไม่สั่งฟ้องทีพีไอไม่กระทบผลกศึกเลือกตั้งซ่อม
วันนี้ (20 ก.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธาน ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกรณีที่สวนดุสิตโพลล์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต สำรวจคะแนนนิยมของผู้สมัคร ส.ส. กทม.เขต 6 ทั้งก่อนเลือกตั้งล่วงหน้า และทำเอ็กซิท โพลล์ เลือกตั้ง โดยมีกลุ่มตัวอย่างจำนวน 2,519 คน สรุปผลว่า นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ ผู้สมัครหมายเลข 1 จากพรรคประชาธิปัตย์ มีคะแนนนำนายก่อแก้ว พิกุลทอง ผู้สมัครหมายเลข 4 จากพรรคเพื่อไทย ว่า เป็นสิ่งที่เราต้องรับฟัง แต่ที่จริงต้องดูการลงคะแนนของประชาชนในวันนั้น ทั้งนี้ตนคิดว่าเราพยายามทำงานหนักและทำงานให้ดีที่สุด ส่วนโพลจะออกมาว่าเรามีคะแนนนำหรือเป็นรองนั้น ก็เป็นเรื่องที่เรารับฟัง เพื่อดูว่ามีอะไรที่เราต้องปรับปรุงแก้ไข
ส่วนการที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) สั่งไม่ฟ้องบริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) ที่ถูกกล่าวหากระทำผิด พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ กรณีไซฟ่อนเงิน 263 ล้านบาทที่ถูกบริจาคให้พรรคประชาธิปัตย์ โดยการทำนิติกรรมอำพรางจ้างบริษัท เมซไซอะ บิซิเนสแอนด์ครีเอชั่น จำกัด ทำสื่อโฆษณา จะส่งผลต่อการหาเสียงเลือกตั้งซ่อม ส.ส.หรือไม่ เพราะฝ่ายตรงข้ามอาจนำมาใช้โจมตีพรรคประชาธิปัตย์ นายองอาจ ชี้แจงว่า ไม่น่าจะส่งผลอะไร ที่จริงแล้วในช่วงการหาเสียงเกือบ 1 เดือนที่ผ่านมา เราไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้เลย แต่เราเน้นเรื่องที่เป็นประโยชน์ของประชาชนในเขตเลือกตั้งที่ 6 กับการทำงานของรัฐบาล อย่างไรก็ตามเรื่องนี้เป็นการทำงานของดีเอสไอตามปกติ และขั้นตอนก็ไม่ได้หยุดอยู่แค่นี้ เชื่อว่าประชาชนสามารถใช้วิจารณญาณได้ในการเลือกตั้ง ซึ่งการเลือกตั้งแต่ละครั้งที่ผ่านมา มั่นใจว่าคนกรุงเทพฯ ที่ออกมาเลือกตั้งจะสามารถตัดสินใจได้ด้วยตัวเอง โดยใช้วิจารณญาณพิจารณาพรรคการเมืองและผู้สมัครเป็นหลัก.