ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคพท.
แถลงกรณีตำรวจเข้าจับกุมตัวนายสุรชัย เทวรัตน์ หรือหรั่ง ที่อ้างว่าเป็นมือขวาและคนสนิทของพล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือเสธ.แดง อดีตผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)รีบแถลงข่าวว่านายหรั่งเกี่ยวข้องกับคดีสำคัญ8คดี เมื่อสื่อสอบถามนายหรั่งก็ยังปฏิเสธข้อกล่าวหา และส่าสุดเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอพลิกรับว่านายหรั่งยังไม่ยอมให้การ ดังนั้นกรณีนี้เป็นการแถลงข่าวฝ่ายเดียวของดีเอสไอ รวมทั้งกรณีน.ส.ขัตติยา สวัสดิผล บุตรสาวเสธ.แดงระบุว่า ไม่เคยเห็นหน้านายหรั่ง และเสธ.แดงก็ไม่เคยพูดเรื่องนี้ให้ฟัง และกรณีมารดาและภรรยาของนายหรั่งที่เพิ่งอุ้มลูกเพิ่งคลอด 26 วันขอความเป็นธรรมให้นายหรั่ง เพราะเรื่องนี้เกรงว่า นายหรั่งจะไม่ได้รับความเป็นธรรม และขอให้เจ้าหน้าที่เอาหลักฐานมายืนยัน เพราะกลัวสามีจะตกเป็นแพะรับบาป
"คณะทำงานกฎหมายของพรรคได้เฝ้าการทำงานของดีเอสไอ และเห็นว่าการแถลงข่าวของดีเอสไอเป็นการแถลงล่วงหน้า ทั้งที่ไม่มีข้อเท็จจริงเพียงพอ กรณีนี้เป็นการละเมิดสิทธิผู้ต้องหา และทำให้ญาติได้รับความเสียหาย คณะทำงานตั้งข้อสังเกตว่านายหรั่งอายุ 25 ปีตรวจสอบแล้วนายหรั่งไม่เคยรับราชการหน่วยความมั่นคง และตรวจสอบว่าเชี่ยวชาญใช้อาวุธหรือไม่กลับไม่พบ แต่กลับก่อคดีสำคัญ 8 คดีเป็นเรื่องผิดปกติน่าจะมีความสามารถเหมือนยอดมมุษย์ เพราะระหว่างมีการชุมนุมและพ.ร.ก.ฉุกเฉินยังบังคับใช้จึงไม่น่าจะก่อคดีต่อเนื่องกันได้ ดังนั้นกรณีเจ้าหน้าทีรัฐและดีเอสไอ แถลงข่าวน่าเชื่อมโยงถึงผลการลือกตั้งซ๋อมส.ส.กทม.เขต 6 เพื่อดิสเครดิตกลุ่มคนเสื้อแดงที่สนับสนุนนายก่อแก้ว พิกุลทอง ผู้สมัครส.ส.จากพรรคเพื่อไทยหรือไม่" นายพร้อมพงศ์กล่าวและว่า ทั้งนี้ขอเรียกร้องไปยังรัฐบาลและนายธาริตให้สอบสวนผู้ต้องหาทุกคนตรงไปตรงมาไม่ควรเปิดเผยข้อเท็จจริงก่อนหวังผลการเมือง ซึ่งการกระทำในลักษณะนี้เหมือนจับแพะชนแกะโยนความผิดให้คนตาย โดยบอกว่าการสลายการชุมนุมไม่ใช่การกระทำของรัฐบาลเพื่อฟอกขาวให้ตนเองเท่านั้น