ชวนดันบัญญัติ-สุทัศน์ร่วมทีมแก้คดี 258 ล้าน

ที่พรรคประชาธิปัตย์ ภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์

ได้เข้าหารือกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี โดยหลังการหารือนายชวนเปิดเผยว่า ได้รายงานให้นายกฯ ทราบว่าทีมกฎหมายรับมือคดียุบพรรคประชาธิปัตย์ ได้มีการหารือเพื่อเตรียมรับคดีใหม่ คือคดีเงินบริจาคเข้าพรรค 258 ล้านบาท โดยได้มีนายบัญญัติ บรรทัดฐาน กรรมการสภาที่ปรึกษา หัวหน้าพรรคในขณะนั้น เข้าร่วมหารือด้วย ซึ่งในการหารือดังกล่าวนายบัญญัติได้มั่นใจในเรื่องที่เกิดขึ้น และนายบัญญัติก็เป็นคนตรงไปตรงมา ทั้งนี้นายบัญญัติเสนอว่าจะเข้าช่วยดูแลคดี 258 ล้านบาทเป็นหลัก โดยจะให้เวลาเต็มที่ และถือเป็นเจ้าของเรื่อง พร้อมกับขอให้ตั้งนายสุทัศน์ เงินหมื่น ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ เป็นทนายเพิ่มอีกตนหนึ่ง ซึ่งเรื่องเล่านี้เป็นเพียงการเตรียมการรับคดี 258 ล้านบาท โดยนายกฯ ก็เห็นด้วยกับข้อเสนอดังกล่าว และไม่ได้ แสดงความเป็นห่วงหรือฝากอะไรมาเป็นพิเศษ

นายชวนกล่าวว่า สำหรับคดีเงินสนับสนุนพรรคการเมือง 29 ล้านบาท ทางพรรคได้ยื่นคำชี้แจงไปโดยละเอียดแล้ว คิดว่าสมบูรณ์แล้ว

เหลือเพียงขั้นตอนการนำพยานมาสืบ โดยหากรวมพยานทั้งสองฝ่ายก็จะมีเกือบ 100 ปาก อย่างไรก็ตาม ทั้งสองคดีจะใช้ทีมกฎหมายทีมเดียวกัน เพราะมีข้อมูลจากแหล่งเดียวกัน เพียงแต่ต้องดูข้อมูลจากศาลรัฐธรรมนูญที่บอกว่ามีเอกสารถึง 3 คันรถว่าจะเป็นเอกสารชุดเดียวหรือแตกต่างกันหรือไม่

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีข่าวว่าพรรคประชาธิปัตย์กังวลเกี่ยวกับบริษัทผีที่รับงานผลิตป้ายโฆษณาของพรรค นายชวนกล่าวว่า เป็นเพียงข่าว

อยากขอร้องว่าการเสนอข่าว อย่าใช้แหล่งข่าว ควรเสนอมาว่าใครพูด ไม่เช่นนั้นจะเข้าใจว่าเขียนกันเอง และอยากขอร้องเพราะขณะนี้มีแรงกดดัน ซึ่งหากศาลตัดสินว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่ทำผิด ก็จะกล่าวหาว่าสองมาตรฐาน ตุลาการเข้าข้างพรรคประชาธิปัตย์ ขอยืนยันว่าใครทำผิดก็ต้องรับผิด อย่าใช้กระแสกดดัน ซึ่งหลังๆ ก็มีแรงกดดันมาก ใครที่ออกนอกกติกาก็ต้องโดนลงโทษ แต่ขณะนี้คนที่เคารพกฎหมายกลับเสียเปรียบ แต่คนที่ละเมิดกฎหมายได้เปรียบเสมอ

เมื่อถามว่า นายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ จะขอถอนตัวจากการพิจารณาคดี 258 ล้านบาท

นายชวนกล่าวว่า ไม่ทราบ แต่สาเหตุในการถอนตัวในคดี 29 ล้านบาทของนายวสันต์ก็มาจากข้อกล่าวหาที่ว่านายวสันต์ไปพบกับนายทศพล เพ็งส้ม หนึ่งในทีมกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งไม่เป็นความจริง สิ่งนี้ก็เป็นวิธีหนึ่งในการกดดัน ซึ่งถ้าเขาตั้งเป้าให้นายวสันต์ถอนตัว ก็ถือว่าได้ผลตามเป้าหมาย ทั้งนี้ ปัญหาเรื่องแรงกดดันต่างๆ ที่เกิดขึ้น อยากให้รัฐบาลเข้าไปดูแลสถาบันและองค์กรต่างๆ