แหล่งข่าวจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) เปิดเผย "มติชนออนไลน์"ว่า
ในการพิจารณคดีถอดถอนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และ นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กรณีขอให้บริษัทผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3 ราย ส่งข้อความสั้นหรือเอสเอ็มเอสให้กับประชาชน จำนวน 17.2 ล้านหมายเลข โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ อันอาจเข้าข่ายความผิด พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 .มาตรา 103 ที่ห้ามมิให้เจ้าหน้าที่ของรัฐรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด มูลค่าเกิน 3 พันบาท
ซึ่งที่ประชุม คณะกรรมการ ป.ป.ช.จะพิจารณาในวันนี้นั้น เป็นเพียงขั้นตอนการพิจารณาเบื้องต้นว่าคดีมีมูลหรือไม่
โดยมี 2แนวทางพิจารณา 2 แนวทางคือ
1.ถ้ากรรมการ ป.ป.ช.เห็นว่าการส่งข้อความสั้นน่าจะเข้าข่ายกระทำความผิดตามกฏหมาย ป.ป.ช. 103 กรณีห้ามรับของขวัญของกำนัลเกิน มูลค่า 3,000 บาท ป.ป.ช.จะต้องเรียกตัวนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มารับทราบข้อกล่าวหา ตามกระบวนการไต่สวน และผู้ถูกร้องแก้ข้อกล่าวหา ซึ่งถ้าไต่สวนเสร็จแล้วถึงขั้นตอนลงมติชี้มูลว่า เป็นการกระทำความผิด เมื่อถึงตอนนั้นจะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่นายกฯทันที และป.ป.ช.จะต้องส่งเรื่องให้อัยการฟ้องศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เหมือนกรณีคดีซื้อที่ดินรัชดาฯ
แนวทางที่ 2 ถ้า กรรมการ ป.ป.ช.เห็นว่าการรวบรวมข้อมูลเบื้องต้น "ไม่มีมูล" เรื่องก็ตกไป
เพราะฉะนั้น การพิจารณาในวันนี้จึงเป็นขั้นตอนแรกว่าคคีมีมูลหรือไม่ จึงยังไม่มีผลต่อการปฏิบัติหน้าที่ของนายกฯ