อภิสิทธิ์ทำใจยอมรับหากถูกสั่งยุบพรรค

โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ เซ็นทรัลเวิลด์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์

ถึงกรณีที่ได้บอกกับนายจิอันนี เวอร์เนตติ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และอดีต รมช.ต่างประเทศของอิตาลี ที่พบกันเมื่อวันที่ 13 ก.ค.ที่ผ่านมา ว่าไทยจะมีการเลือกตั้งทั่วไปในปีหน้าว่า ไม่ได้หมายความว่ามีการตั้งธงไว้แล้ว แต่มีการสอบถามกันว่าสภาของไทยจะครบอายุเมื่อไหร่ และความเป็นไปได้ในการที่จะมีการเลือกตั้งเร็วขึ้น
   
เมื่อถามว่า แสดงว่าในความคิดของนายกฯยังเห็นว่าไม่จำเป็นที่รัฐบาลชุดนี้จะต้องอยู่จนครบวาระ นายอภิสิทธิ์ กล่าวตอบรับว่า ครับ

เมื่อถามต่อว่า จะมีปัจจัยอะไรที่จะตัดสินใจว่าจะอยู่ครบหรือไม่ครบวาระ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า การที่จะผ่อนคลายไปสู่การเลือกตั้ง ถ้าเห็นว่ามันสามารถจะช่วยทำให้ประเทศเดินไปข้างหน้าได้เร็วขึ้นก็เป็นสิ่งที่ พึงกระทำ แต่การที่จะเกิดจุดนั้นได้อยู่ที่เงื่อนไขของความร่วมมือในการไม่ให้เกิดความรุนแรง การยุบสภาเลือกตั้งใหม่ต้องดูว่าการตอบสนองของฝ่ายต่าง ๆ เป็นอย่างไร วันนี้ยังเห็นได้ชัดว่าเป็นเรื่องยากอยู่ เนื่องจากทัศนคติของบางกลุ่มที่มองว่าต้องใช้ความรุนแรงมากดดัน ขณะที่รัฐบาลพยายามส่ง  สัญญาณว่าถ้าไม่มีการใช้ความรุนแรง การเลือกตั้งใหม่จะเกิดขึ้นได้เร็วขึ้น

นายอภิสิทธิ์ยังกล่าวถึงความชัดเจนเรื่องการตั้งพรรคสำรอง กรณีถูกยุบพรรค ประชาธิปัตย์ว่า ยืนยันว่าไม่มี ถ้ามีการยุบพรรค ส.ส.ของพรรคที่ไม่ถูกตัดสิทธิจะรวมกลุ่มกันตั้งพรรคหรือไปสังกัดอยู่กับพรรคใดพรรคหนึ่งก็ได้ เมื่อถามว่าทั้ง 2 พรรค  การเมืองใหม่ที่ไปจดทะเบียนตั้งพรรคขึ้น มาใหม่ ทั้งพรรคไทยเข้มแข็งและพรรค ธรรมาธิปัตย์ ดูเหมือนมีความใกล้ชิดกับพรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ไม่ทราบ
   
ผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้าการตัดสินในคดีนี้เกิดขึ้นในช่วงที่เป็นรัฐบาลจะส่งผลกระทบอย่างแน่นอน ไม่จำเป็นต้องเตรียมการไว้ ล่วงหน้าก่อนหรือ

นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เราต้องเคารพกระบวนการรัฐธรรมนูญ ขณะนี้เป็นเรื่องที่ศาลจะพิจารณาตัดสิน และเราหวังว่าศาลฯจะตัดสินตามความเป็นจริง ถ้าตัดสินว่าผิดเราต้องยอมรับบ้านเมืองจึงจะเดินได้ เมื่อถึงจุดนั้นมันจะเกิดปัญหาหรือไม่ตอบไม่ได้ 

เมื่อถามว่า มีการหารือกับนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ อย่างไรบ้าง

หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตนกับนายชวนเคยพูดคุยกันเกี่ยวกับคดีเงินกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมืองของ กกต.จำนวน 29 ล้านบาท มีความเข้าใจและแนวทางในการต่อสู้คดีนี้แล้ว แต่คดีเงินบริจาค 258 ล้านบาท ยังไม่เคยคุยกัน ต่อข้อถามว่า การที่นายชวนสะท้อนความคิดเห็นว่าให้ทุกคนในพรรคช่วยกันทำงาน คิดว่าคณะทำงานฝ่ายกฎหมายทำงาน เต็มที่แล้วหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า คณะทำงานทุกคนทำงานกันหนัก คิดว่าสิ่งที่นายชวนกังวลน่าจะเป็นเรื่องที่ว่าประเด็นเหล่านี้กลายเป็นประเด็นทางการเมือง เวลาที่เรื่องขึ้นสู่ศาลแล้วก็อยากให้ระมัดระวังในการให้ความเห็นหรือให้สัมภาษณ์