นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงที่พรรคเพื่อไทยเมื่อวันที่ 14 กรกฏาคม ว่าที่ประชุมกรรมการบริหารพรรค
ได้กำหนด ทิศทางในการ รณรงค์ เพื่อส่งเสริมประชาธิปไตย ในรูปแบบต่างๆเพื่อให้ ประชาชน ทั่วไป ในแต่ละพื้นที่ มีความรู้ ความเข้าใจ ต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตย์ทรงเป็นพระประมุข ทั้งนี้พรรคเพื่อไทย ได้กำหนดการลงพื้นที่ออกเป็น 3 ช่วง คือ 1.ช่วงเดือนกรกฎาคม สิงหาคม และกันยายน จะลงพื้นที่ภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง ดังนี้
1. วันที่ 29 กรกฎาคม จ.ลำพูน ,วันที่ 30 กรกฎาคม จ.กำแพงเพชร ,วันที่ 1สิงหาคม ที่ จ.สุรินทร์ ,วันที่ 2 จ.ศรีสะเกษ ,วันที่ 6 สิงหาคม จ. หนองคาย และวันที่ 8 สิงหาคม จ.ราชบุรี โดยพื้นที่ที่ทำการปราศรัย จะอยู่นอกพื้นที่การประกาศ พรก.ฉุกเฉินของรัฐบาลทั้งหมด เพราะพรรคฝ่ายค้านสามารถปรับตัวให้เข้ากับการประกาศ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินของรัฐบาลได้แล้ว ดังนั้นพื้นที่ใดไม่มีการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ก็จะปราศรัย พื้นที่ใดมี พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เราก็จะไม่ปราศรัย
สำหรับช่วงที่ 2. ตุลาคม พฤศจิกายน ธันวาคม และช่วงที่ 3 มกราคม กุมภาพันธ์ และ มีนาคม 2554 นั้นยังไม่มีการกำหนดพื้นที่
นายจิรายุ กล่าวว่า โดยรูปแบบการปราศรัยจะแบ่งออกเป็น 3 รูปแบบ คือ
รูปแบบที่ 1 การลงพื้นที่แบบเคาะประตูบ้านทำความเข้าใจ และรับฟังปัญหาต่างๆ กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ หมู่บ้าน,ตำบล, อำเภอต่างๆในเขตจังหวัดนั้น ๆ โดย ส.ส.ในพื้นที่ และกรรมการบริหารพรรค และ ส.ส. ในภาคอื่นๆที่แสดงเจตจำนง ช่วยลงพื้นที่ในการ ทำความเข้าใจและรับฟังปัญหากับประชาชนไม่น้อยกว่า 50 คน
รูปแบบที่ 2 คือการเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ ตั้งแต่เวลาประมาณ 16.00-22.00 น. โดย จะมี ผู้บริหารพรรค ส.ส. นำโดย พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรค ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส. นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรค นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารพรรค รวมทั้ง ส.ส.ของพรรคและนายจตุพร พรหมพันธ์ ส.ส.สัดส่วนและแกนนำคนเสื้อแดง , น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กทม. ,นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคและหากนายก่อแก้ว พิกุลทอง ได้รับเลือกเป็น ส.ส.กทม. ก็จะให้นายก่อแก้วไปขึ้นเวทีปราศัยด้วย
รูปแบบที่ 3 จะเป็นการแสดงนิทรรศการ ขนาดใหญ่ ในหัวข้อ “7 วัน 7 ความเจ็บปวดของประชาชน “ โดยจะเริ่มจัดนิทรรศการรูปแบบใหม่ โดยใช้ แนวคิด “รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส” ที่ที่ทำการพรรคเพื่อไทย ตั้งแต่ที่ 19 กรกฎาคม ถึงวันที่ 26 กรกฎาคม ตั้งแต่ 10.00 -17.30 น. บริเวณ ชั้น 1-2 โดยจะแสดงในในคอนเซ็ปของ กล่อง”ขาว” และ กล่อง”ดำ “โดยกล่องขาวจะแสดงถึงชีวิต อันบริสุทธิ์ ของมนุษย์ที่ไม่ว่าใครหน้าไหนก็ไม่มีสิทธิ์ มาทำร้าย หรือ หยิบยื่นความตาย ด้วยการฆ่ากันโดยไม่ผ่านกระบวนการยุติธรรมได้ ส่วนกล่องดำ จะ สื่อให้เห็นถึงการทุจริต คอรัปชั่น โกหกมดเท็จ เอาดีใส่ตัวเอาชั่วให้คนอื่น หรือ ปากปราศรัยน้ำใจเชือดคอ หน้าประชาธิปไตย หัวใจเผด็จการ ซึ่งในปัจจุบันถูกเปรียบเทียบ ว่าถูกปกคุมด้วย สีดำ อันเป็นสีแห่งความสกปรก และความชั่วร้าย และทั้งหมดจะถูกแบ่งออก เป็น 7 โซน ตั้งแต่ บริเวณหน้าพรรค ไปจนถึง ชั้น 2 ของ พรรค
โซนที่ 1 จะแสดงให้เห็นถึงแนวคิดของกล่องดำ เช่น วาทกรรมอำมหิต ,กระบวนการ 2 มาตรฐาน,
โซนที่ 2 จะเป็นรูปแบบการกู้มาโกง ,และการทุจริตประเภทต่างๆ
โซนที่ 3 จะแสดงให้เห็นถึงอุปกรณ์คืนพื้นที่ชีวิตประชาชน และสื่อให้เห็นถึงชีวิตของประชาชน ในการเรียกร้องประชาธิปไตยรวมทั้งแนวคิดพื้นที่การใช้กระสุนจริง
โซนที่ 4 จะแสดงให้เห็น ความเป็นไทยเมืองพุทธในเขตอภัยทาน ที่มีการล้อมยิงโดนกระหยิ่ม 6 ศพ
โซนที่ 5 จะแสดงข้อเท็จจริงในเรื่อง ความจริง ใครเผาเมืองใส่ร้าย หรือป้ายสี เหตุและผลของวันที่ 19 พฤษภาคม
โซนที่ 6 ปกปิด บิดเบือน กลบเกลื่อน ความจริง” โซนนี้จะจำลองลอง เหตุการณ์จริงๆในรูปแบบ โรงหนังเล็กๆเพื่อให้ผู้ชมนิทรรศการ ได้เห็น ภาพเหตุการณ์จริงที่ไม่มีโอกาสได้เห็นใน สื่อต่างๆ
โซนที่ 7 จะเป็น โซน ของการแสดง จุดยืนของพรรคเพื่อไทย หัวใจคือประชาชนทุกคน
ซึ่งทั้ง 7 โซนนั้นผู้รับชมจะได้สัมผัสทั้งรูป รส กลิ่น เสียง และสัมผัสทางอารมณ์ เช่น กลิ่นควันไฟ กลิ่นธูป และเสียง จริง ของประชาชน ผู้บาดเจ็บเป็นต้น โดยนิทรรศการทั้งหมดจะถูกนำไปจัดแสดงในพื้นที่ต่างๆ ที่พรรคเพื่อไทยกำหนดที่จะลงพื้นที่ในช่วงเดือน กรฎาคม-กันยายนด้วย” นายจิรายุ กล่าว
นายจิรายุ กล่าวว่า นอกจากนี้พรรคเพื่อไทยก็จะจัด กิจกรรมการแถลงข่าว เปิดความจริงตลอด 5 วันในระหว่าง วันที่ 19 ถึงวันที่ 23 กรกฎาคม
ในเวลา 10.00 น. และ 14.00 น. ที่ห้องประชุมชั้น 10 และจะมีการจัดเสวนาในหัวข้อต่างๆ เพื่อระดมความคิด และ ให้ความรู้และหาทางออก รวมทั้งเกาะติดกับการทุจริตต่างๆ ในปัจจุบัน โดยวันที่ 19 กรกฎาคมจะเริ่มด้วย หัวข้อ “พรรคเพื่อไทย จุดยืน อุดมการณ์ ประชาชน” วันที่ 20 กรกฎาคมจะเป็น หัวข้อ “ส.ค. บิน สัมพันธ์ลับ เขาแพง” วันที่ 21 กรกฎาคม หัวข้อ “รถไฟฟ้ามาหานะ (เงิน) สายสีม่วง กับ การบินไทย รักกรณ์ เท่าฟ้า “วันที่ 22 กรกฎาคม หัวข้อ “ช๊อปแสนล้าน ซื้ออาวุธกลาโหม ใครอิ่ม” วันที่ 23 กรกฎาคม หัวข้อ ”พรก. ฉุกเฉิน ใครได้ประโยชน์”