วันนี้ (14ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่พรรคเพื่อไทยได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์นายกรัฐมนตรีและบุคคลสำคัญในรัฐบาล
ประกาศจะซื้อคืนหุ้นดาวเทียมไทยคมคืนจากกองทุนเทมาเสค ของสิงคโปร์ ว่า เป็นการให้ข่าวเพื่อปั่นหุ้นและผู้ได้กำไรจากการช้อนซื้อและเทขายหุ้นดังกล่าวในตลาดหลักทรัพย์นับพันล้านบาทนั้น ล่าสุดฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทยได้ร่างหนังสือเตรียมส่งถึงนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้ส่งคำร้องนี้ไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อวินิจฉัยว่าความเป็น นายกรัฐมนตรีของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และความเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของ นายกรณ์ จาติกวณิช สิ้นสุดลง พร้อมกับความเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของนายศิริโชค โสภา ตามรัฐธรรมนูญ 2550 มาตรา 91 มาตรา 106 และมาตรา 266 ประกอบมาตรา 268 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งนอกจากการอ้างความผิดตามรัฐธรรมนูญแล้วยังอ้างความผิดต่อ พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 เนื่องจากออกมาให้ข่าวก่อนที่จะแจ้งตลาดหลักทรัพย์ประกาศหยุดทำการซื้อขายหุ้นไทยคม เพื่อเป็นเหตุแห่งการยื่นถอดถอนครั้งนี้ด้วย และจะมีการรวบรวมรายชื่อ ส.ส.เพื่อให้ได้จำนวนไม่น้อยกว่า 1 ใน 10 ของจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของสภา เพื่อเข้าสู่กระบวนการยื่นถอดถอนตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเย็นที่ผ่านมา นายกรณ์ พร้อมด้วยนายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร(ไอซีที)
ได้เดินทางเข้าพบนายอภิสิทธิ์ ที่ห้องทำงานนายกรัฐมนตรี ภายในตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง ทั้งนี้นายจุติและนายกรณ์ไม่ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนถึงการเข้าพบดังกล่าว โดยนายนายจุติได้เดินลงด้านหลังตึกไทยคู่ฟ้าไปก่อน ส่วนนายกรณ์เดินทางออกจากทำเนียบรัฐบาลไปพร้อมกับขบวนรถของนายกรัฐมนตรี
อย่างไรก็ตามคาดว่าจะเป็นการหารือในกรณีที่คณะกรรมการตามมาตรา 22 ของพ.ร.บ.ว่าด้วยเอกชนร่วมการงานหรือดำเนินในกิจการของรัฐ พ.ศ.2535 (พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ) ที่ศึกษาเรื่องสัญญาสัมปทานดาวเทียมไทยคมที่ได้ยึดตามคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจากคดียึดทรัพย์ของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มูลค่า 4.6 หมื่นล้านบาท.