นายอภินันทน์ อิศรางกูร ณ อยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)
เปิดเผยว่า การประชุมป.ป.ช.ชุดใหญ่วันที่ 15 ก.ค.จะมีการพิจารณาสำนวนคดีถอดถอนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง กรณีขอให้บริษัทผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3 ราย ส่งเอสเอ็มเอสให้กับประชาชน จำนวน 17.2 ล้านหมายเลข โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ อันอาจเข้าข่ายความผิดตามกฎหมายป.ป.ช.มาตรา 103 ที่ห้ามมิให้เจ้าหน้าที่ของรัฐรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด มูลค่าเกิน 3 พันบาท พร้อมกับคดีถอดถอนรัฐมนตรีคนอื่น รวม 5 ประเด็น โดยจะเริ่มประชุมในเวลา 10.00 น. และคาดว่าจะแถลงผลการประชุมคดีนี้ ร่วมกับคดีการเมืองต่างๆ อีกประมาณ 100 คดีได้ในเวลา 16.00 น.
นายอภินันทน์ กล่าวว่า สำหรับคดีเอสเอ็มเอส หากที่ประชุมป.ป.ช.ชี้มูลว่า
มีความผิด ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 270-274 จะต้องส่งเรื่องให้อัยการฟ้องศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองต่อไปในความผิดทางอาญา ภายในเวลา 30 วัน ซึ่งหากอัยการ พบข้อไม่สมบูรณ์ สามารถส่งเรื่องกลับมายังป.ป.ช.เพื่อตัดคณะทำงานร่วมขึ้นมารวบรวมพยานหลักฐานให้สมบูรณ์ แต่หากไม่สามารถหาข้อยุติได้ ป.ป.ช.มีอำนาจในการฟ้องคดีด้วยตัวเอง นอกจากนี้ ยังต้องส่งเรื่องให้วุฒิสภาลงมติถอดถอน โดยจะต้องใช้เสียงไม่น้อยกว่า 3 ใน 5 ของจำนวนส.ว.ทั้งหมดที่มีอยู่ โดยนายอภิสิทธิ์และนายกรณ์จะปฏิบัติหน้าที่ต่อไปมิได้จนกว่าวุฒิสภาจะมีมติ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีนี้ ส.ส.พท.และนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว.สรรหา เป็นผู้ยื่นคำร้องต่อป.ป.ช.
โดยสัปดาห์ที่ผ่านมา นายเรืองไกรให้สัมภาษณ์ยืนยันว่า นายอภิสิทธิ์และนายกรณ์น่าจะมีความผิด ตามกฎหมายป.ป.ช. มาตรา 103 อย่างแน่นอน เนื่องจากเวลาดังกล่าว นายอภิสิทธิ์เพิ่งได้รับโปรดเกล้าฯให้เป็นนายกฯ จึงไม่อาจอ้างได้ว่า เป็นการบริหารราชการแผ่นดิน และเอสเอ็มเอส จำนวน 17.2 ล้านเลขหมาย มีมูลค่าเกิน 3 พันบาทแน่นอน