นายกฯ ป้องทอ.จัดซื้อ กริพเพน ต้องดูรายละเอียดด้วย

ผบ.ทอ.ไม่ติดใจครหากริพเพนแพง โฆษก ทอ.แจงจัดซื้อทั้งระบบ เทียบโรมาเนียที่ยังเป็นแค่ข่าวเสนอราคาไม่ได้ ชี้คิดหารเฉลี่ยแต่ละเครื่องไม่ถูกต้อง เหตุแต่ละประเทศตั้งเงื่อนไขแตกต่างกัน เชื่อสวีเดนไม่เอาเปรียบประเทศคู่ค้า

น.อ.มณฑล สัชฌุกร รองเจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารอากาศ ในฐานะโฆษกกองทัพอากาศ(ทอ.)

ชี้แจงเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม ถึงการจัดซื้อเครื่องบินขับไล่รุ่นยาส 39 ซี/ดี กริพเพน (JAS 39C/D Gripen) จากประเทศสวีเดน ของรัฐบาลไทย ซึ่งมีราคาแพงว่าที่รัฐบาลสวีเดนเสนอขายให้กับรัฐบาลโรมาเนีย ถึงลำละ 1,200 ล้านบาท โดยรัฐบาลไทยซื้อ "กริพเพน" จำนวน 12 ลำ โดย 6 ลำแรกจัดซื้อในรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ราคา 19,000 ล้านบาท และล็อตที่ 2 รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เพิ่งอนุมัติจัดซื้ออีก 6 ลำ เมื่อวันที่ 26 มกราคมที่ผ่านมา งบประมาณ 16,000 ล้านบาท เฉลี่ยแล้วตกลำละประมาณ 2,866 ล้านบาท ขณะที่รัฐบาลสวีเดนเสนอขายให้รัฐบาลโรมาเนีย 24 ลำ เฉลี่ยลำละประมาณ 1,666 ล้านบาท ว่าการตั้งราคาหรือเปรียบเทียบราคาการจัดซื้อ โดยนำจำนวนเงินงบประมาณจัดซื้อมาหารกับจำนวนเครื่อง แล้วเป็นราคาเครื่องละเท่าไหร่นั้น ถือว่าวิธีคิดนี้ไม่ถูกต้อง คิดอย่างนี้ไม่ได้ เพราะแต่ละประเทศจะมีเงื่อนไขในการจัดซื้อแตกต่างกัน
 

น.อ.มณฑล กล่าวว่า กองทัพอากาศไทยจัดซื้อเครื่องบินกริพเพนไม่ใช่แค่ตัวเครื่อง แต่เป็นการซื้อที่ได้ทั้งระบบ

ซื้อแบบแพ็กเกจทั้งโครงการ รวมทั้งระบบการรักษาความปลอดภัย ระบบการแจ้งเตือนทางอากาศ เออรี่อาย ระบบเทคโนโลยี ซึ่งเป็นสิ่งที่กองทัพได้รับข้อเสนอในการจัดซื้อเครื่องบินกริพเพน เฟสแรก งบประมาณ 19,600 ล้านบาท เป็นการจัดซื้อทั้งระบบ ส่วนประเทศโรมาเนีย เป็นการให้ข่าวหลังจากที่ต้องการซื้อเครื่องบินเอฟ 16 ไปแล้ว และเป็นการให้ข่าวโดยที่ยังไม่ได้มีการตกลงรายละเอียดในการจัดซื้อ ซึ่งหากเข้าสู่การเจรจารายละเอียดราคาคงไม่เป็นอย่างนี้
 

โฆษก ทอ. กล่าวว่า การเอาราคาไปเปรียบเทียบ ไม่ควรคิดในลักษณะที่เอาราคางบฯรวมไปหารตัวเครื่อง

เพราะแต่ละประเทศข้อตกลงไม่เหมือนกัน ปัจจุบันมีประเทศที่ซื้อเครื่องบินกริพเพน คือ แอฟริกาใต้ ฮังการี เช็ก และไทย ซึ่งแต่ละประเทศมีเงื่อนไขแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขแต่ละประเทศที่เสนอ ทั้งนี้ รัฐบาลสวีเดนยึดหลักความเป็นธรรมและยุติธรรมไม่เอาเปรียบประเทศคู่ค้า ดังนั้น ราคาจัดซื้อแต่ละประเทศก็จะไม่เท่ากันอยู่ที่เงื่อนไขที่ได้รับ
 

"ได้รายงานให้ พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ(ผบ.ทอ.) รับทราบแล้ว ท่านก็บอกไม่เป็นไร เรื่องนี้เราชี้แจงมาตั้งแต่ปี 2550 แล้ว เกี่ยวกับราคาการจัดซื้อ และไปชี้แจงต่อกรรมาธิการ(กมธ.)ของรัฐสภา ซึ่งทุกส่วนก็เข้าใจในรายละเอียดเรื่องราคาที่แตกต่างกันของแต่ละประเทศแล้ว เพราะทุกอย่างมันอยู่ที่แพ็กเก ซึ่งต้องดูรายละเอียดแต่ละประเทศว่าเป็นอย่างไร ซึ่งการจัดซื้อของไทยเรามีสิ่งที่คุ้มค่าทั้งระบบเทคโนโลยี ระบบการแจ้งเตือนภัยทางอากาศ ซึ่งแตกต่างจากประเทศโรมาเนีย ดังนั้น การคิดราคาอย่างนี้ไม่เหมาะสมและไม่ถูกต้อง" น.อ.มณฑล กล่าว


ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความเป็นไปได้ในการทบทวนการจัดซื้อเครื่องบินขับไล่ รุ่นยาส 39 ซี/ดี กริพเพ่น จากประเทศสวีเดน รวม 6 ลำ

หลังรัฐบาลสวีเดนลดราคาขายกริพเพนให้รัฐบาลโรมาเนียลงต่ำกว่าราคาที่ขายให้รัฐบาลไทยประมาณลำละ 1,200 ล้านบาทว่า ได้สอบถามพล.อ.อภิชาต เพ็ญกิตติ ปลัดกระทรวงกลาโหม ในระหว่างการประชุมหัวหน้าส่วนราชการระดับปลัดกระทรวง เมื่อเวลา 11.00 น. ของวันนี้ (วันที่ 12 กรกฎาคม) โดยทราบว่าจะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องชี้แจง แต่ในเบื้องต้นคงต้องไปดูรายละเอียด เพราะการเปรียบเทียบภาพรวมเรื่องตัวเลขอย่างเดียวคงไม่พอ ต้องดูว่าเงื่อนไขในการซื้อต่างกันอย่างไร เช่น ข้อตกลงเรื่องอุปกรณ์ ข้อตกลงเรื่องการฝึก แต่ทุกโครงการต้องตรวจสอบได้อยู่แล้ว
 

ผู้สื่อข่าวถามว่า กระทรวงกลาโหมได้ชี้แจงหรือไม่ว่า มีเครื่องบินรุ่นอื่นที่มีศักยภาพใกล้เคียงกับกริพเพน และรัฐบาลสามารถจัดซื้อได้

นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า "โครงการนี้อนุมัติไปเมื่อปี 2550 มาถึงรัฐบาลของผมก็เข้าสู่ระยะที่ 2 แล้ว" เมื่อถามย้ำว่า บริษัทซาบ ผู้ผลิตกริพเพน ผูกขาดการจัดหาอาวุธยุทโธปกรณ์ของกองทัพหลายรายการ จะมีการทบทวนในส่วนนี้หรือไม่ ทั้งนี้ นายอภิสิทธิ์ไม่ตอบคำถาม และได้เดินแหวกวงล้อมสื่อมวลชนไปทันที
 

นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย แถลงว่า หากข้อเท็จจริงเป็นไปตามที่สื่อมวลชนนำเสนอว่า

รัฐบาลไทยซื้อกริพเพน แพงว่าที่รัฐบาลสวีเดนเสนอขายรัฐบาลโรมาเนียลำละประมาณ 1,200 ล้านบาทเป็นจริง ขอกล่าวหาว่า เป็นการทุจริต เป็นการซื้อที่เหมือนปล้นประเทศ ไม่ใช่ซื้อมาป้องกันประเทศ และเป็นการฮั้วระหว่างรัฐบาลกับกองทัพ โดยนำกำลังทหารมาตอบแทน จึงไม่เป็นที่น่าสงสัยเลยว่า เวลารัฐบาลขอความร่วมมือทหารออกมาเข่นฆ่าประชาชนจึงเป็นไปด้วยความง่ายดาย ประชาชนจึงเสียทั้งขึ้นทั้งล่อง คือเสียทั้งภาษีและชีวิต จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลและกองทัพทำให้ความโปร่งใส โดยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯฝ่ายความมั่นคง พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และพล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ ผบ.ทอ. ต้องออกมาชี้แจง 


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์