โฆสิต มองเศรษฐกิจไทย ปี53 โตสูงสุดเพียง 6%

บิ๊กแบงก์กรุงเทพฯ มองเศรษฐกิจไทยสวนไอเอ็มเอฟ ยันปีนี้โตได้เพียง 6% เท่านั้น ส่วนปี54 เชื่อหากสถานการณ์การเมืองและมาบตาพุดคลี่คลายเศรษฐกิจไทยวิ่งได้ฉิวแน่นอน

เมื่อวันที่ 9 ก.ค. นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงกรณีที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) คาดการณ์เศรษฐกิจไทยปีนี้จะเติบโต 7% ว่า ความเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจในปีนี้จะขยายตัว 6% โดยเศรษฐกิจไทยขับเคลื่อนจากภาครัฐ ภาคเอกชนยังไม่แข็งแรง ขณะที่เสถียรภาพเศรษฐกิจดี เงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำ ฐานการคลังไม่มีปัญหา ดุลบัญชีเดินสะพัดอยู่ในเกณฑ์ดี

"ช่วงที่ผ่านมาประสบปัญหาจากการชุมนุมทางการเมือง รวมถึงยังติดขัดแง่กฎหมายของปัญหามาบตาพุด เศรษฐกิจจะสามารถขยายตัวได้ 7% หรือไม่นั้นยังไม่แน่ใจ" นายโฆสิต กล่าว

สำหรับภาพรวมแนวโน้มเศรษฐกิจในปีหน้าอยู่ที่ว่าปัจจัยต่างๆ จะมีความคลี่คลายมากน้อยเพียงใด ทั้งกรณีปัญหาทางการเมืองและปัญหามาบตาพุด ซึ่งต้องเร่งแก้ไข และปีหน้าการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภาคเอกชนจะเป็นผู้นำ อย่างไรก็ตาม หากสามารถแก้ไขปัญหาที่ติดขัดไปได้ ก็จะเป็นแรงส่งให้ภาคเอกชนเติบโตได้เร็ว ขณะที่ส่วนของเศรษฐกิจโลกยังคงมีปัญหาจากทางยุโรป แต่ในส่วนของจีนและอินเดีย ก็ยังเป็นประเทศที่ขับเคลื่อนได้ ดังนั้นหากระบบสถาบันการเงินในยุโรปไม่มีปัญหาจนถึงระดับรุนแรง ก็ไม่น่ากระทบต่อเศรษฐกิจโลกมากนัก แต่หากส่งผลกระทบก็จะกลายเป็นปัญหาที่ต้องระมัดระวังมากขึ้น

นายโฆสิต กล่าวด้วยว่า การปล่อยสินเชื่อรวมของธนาคารในปีนี้อาจขยายตัวไม่ถึง 6% ซึ่งเป็นกรอบบนของเป้าหมายของธนาคาร แต่ยืนยันว่าในเฉลี่ยกรอบล่างที่ 4% นั้น ธนาคารสามารถขยายสินเชื่อได้ตามเป้าหมายอย่างแน่นอน ทั้งนี้ สาเหตุที่การปล่อยสินเชื่ออาจไม่ขึ้นไปแตะระดับเป้าหมายบน เนื่องจากมองว่าแนวโน้มการแข่งขันของระบบธนาคารจะรุนแรงมากขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง โดยคาดว่าการขยายตัวของสินเชื่อทั้งระบบธนาคารในปีนี้จะอยู่ที่ประมาณ 6% โดยการนำจากธนาคารของรัฐ ซึ่งเป็นไปตามที่รัฐบาลได้ออกมากู้เงิน เพื่อนำไปลงทุนกระจายไปยังภาคธุรกิจ.