นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง กล่าวเมื่อวันที่ 5 ก.ค.
ถึงกรณีที่ทางการกัมพูชาเตรียมส่งตัวน.ส.วริศรียา บุญสม หรืออ้อ อายุ 42 ปี และนายกอบชัย บุญปลอด หรืออ้าย อายุ 41 ปี ผู้ต้องหาคดีจ้างวานลอบวางระเบิดข้างที่ทำการพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย ซึ่งอาจะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและประเทศกัมพูชาดีขึ้น ว่า ต้องติดตามดูต่อไป เพราะมีกรณีต่างหลายกรณี เรื่องนี้เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ประสานงานกัน จะดูว่าเมื่อได้เริ่มต้นอย่างนี้แล้วจะพัฒนาต่อไปอย่างไร
ผู้สื่อข่าวถามว่า ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน เป็นตัวจริงที่หลบหนีออกไปหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่ขอพูดอะไรจนกว่าจะเห็นของจริงก่อน
เมื่อถามว่า มองว่าเป็นวาระซ่อนเร้นหรือไม่ เพราะตัวนายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง ที่หลบหนีไปประเทศกัมพูชาก่อนหน้านี้ แต่ไม่สามารถจับกุมเพื่อส่งตัวกลับมาได้ นายสุเทพ กล่าวว่า "นั่นเป็นคำถามที่มีคนหลายคนถามอยู่ แต่เราอย่างเพิ่งไปวิพากษ์วิจารณ์ก่อน ดูตามข้อเท็จจริง" เมื่อถามว่า ความสัมพันธ์หลังจากนี้จะนำไปสู่การขอตัวผู้ต้องหาคนอื่นหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ค่อยๆ ดูกันไปอย่ารีบทึกทัก
เมื่อถามว่า มองว่าประเทศกัมพูชากำลังสร้างภาพหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า เราอย่าไปว่าเขาอย่างนั้นเขาเป็นเพื่อนบ้านเรา
เราต้องปฏิบัติด้วยความระมัดระวัง เมื่อถามว่า มองว่าเขาต้องการฟื้นฟูความสัมพันธ์กับเราจริงหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า "ก็อาจจะเป็นไปได้" เมื่อถามว่า ข้อมูลจากสถานทูตได้รายงานหรือไม่ว่ามีผู้ต้องหาหลบหนีไปประเทศกัมพูชากี่คน นายสุเทพ กล่าวว่า ยังไม่มีรายงานจากสถานทูต
เมื่อถามว่า นายจตุพร พรมพันธุ์ ส.ส.เพื่อไทย แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง ระบุว่า น.ส.วริศรียาและนายกอบชัย เป็นสายลับของรัฐบาล นายสุเทพ กล่าวว่า "มันจะมีใครสักกี่คนในประเทศไทยที่ยังเชื่อคุณจตุพร เราอย่าไปให้ความสำคัญเลย แกก็พูดไปอย่างที่เราเห็นมาตลอด ไม่มีการสร้างสรรค์"
Love Attack เทศกาลความรักแบบนี้ บอกอ้อมๆให้เขารู้กัน
Chocolate Dreams สาวชั่งฝันและช็อคโกแลต กับหนุ่มหล่อ ไม่แน่คุณอาจจะได้เจอแบบนี้ก็ได้
Love You Like Crazy เพลงเพราะๆ ที่ถ้าส่งให้คนที่เรารัก โลกนี้ก็สีชมพูกันทีเดียว