นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
กล่าวเมื่อวันที่ 5 ก.ค.ถึงการพิจารณาต่ออายุการประกาศใช้พระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งจะสิ้นสุดในวันที่ 6 ก.ค.ว่า ในการประชุมศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) วันนี้ จะนำข้อเสนอแนะของทุกฝ่าย โดยเฉพาะองค์กรพัฒนาเอกชน (เอ็นจีโอ) คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ที่เห็นว่ารัฐบาลควรยกเลิกการบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ตลอดจนเรื่องความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ และการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ทหารตำรวจว่า จะดำเนินการต่อไปอย่างไร เพื่อเสนอต่อนายกรัฐมนตรีพิจารณา ซึ่งอาจจะทดลองยกเลิกการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินในบางพื้นที่
ด้านคณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชนภาคเหนือ หรือกป.อพช.
ออกแถลงการณ์คัดค้านการต่ออายุประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยเฉพาะในพื้นที่ 4 จังหวัดภาคเหนือ คือ เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง และน่าน เนื่องจากเหตุการณ์ความวุ่นวายได้ผ่านไปแล้วกว่า 1 เดือน อีกทั้งสถานการณ์ที่ยังคงเกิดขึ้นเวลานี้ อยู่ในภาวะที่ควบคุมได้ ขณะที่การคง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทำให้การทำงานทางกลไกการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชนถูกยกเว้นไป ทำให้ไม่สามารถตรวจสอบการทำงานของเจ้าหน้าที่ได้อย่างเต็มที่ ทำลายบรรยากาศของประเทศ และการท่องเที่ยว ซึ่งเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรียกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน โดยไม่ต้องขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพราะเป็นอำนาจของนายกฯอยู่แล้ว