ไก่อูหูชา-โทร.ด่าศอฉ.

ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกศอฉ.

ร่วมรับโทรศัพท์ในโครงการ "6 วัน 63 ล้านความคิด ร่วมเดินหน้าปฏิรูปประเทศไทย" ซึ่งเปิดโอกาสให้ประชาชนโทรศัพท์เข้ามาแสดงความคิดเห็น หรือสะท้อนปัญหา ทางหมายเลขโทรศัพท์ 0-2304-9999 เป็นวันที่ 3 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.อ.สรรเสริญ ใช้เวลารับโทรศัพท์ประมาณ 1 ชั่วโมง โดยมีผู้แสดงความเห็นว่าต้องการให้สังคมปรองดอง อะไรที่อะลุ้มอล่วยกันได้ก็อยากให้ทำ พ.อ.สรรเสริญ ตอบว่า จะไม่มีการเอาผิดกับผู้ชุมนุมโดยทั่วไปอยู่แล้ว แต่หากใครทำผิดกฎหมายก็ต้องถูกลงโทษ

นอกจากนี้ มีประชาชนรายหนึ่งโทรศัพท์มาแสดงความเห็นว่า อึดอัดกับการสลายการชุมนุม และเห็นว่าศอฉ.ทำรุนแรงเกินไป

พร้อมทั้งร้องเรียนว่าเพื่อนของตน ถูกทหารทำร้ายร่างกายระหว่างเหตุการณ์สลายการชุมนุม ประมาณวันที่ 15-16 พ.ค. บริเวณตลาดประตูน้ำ สะพานหน้าโรงแรมอินทรา พ.อ.สรรเสริญ ตอบว่า เบื้องต้น ตนขอแสดงความเสียใจแทนกำลังพล และจะรายงานเรื่องนี้ให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และดำเนินการต่อไป

ต่อมาเวลา 11.00 น. พ.อ.สรรเสริญ ให้สัมภาษณ์ภายหลังเสร็จสิ้นการรับโทรศัพท์ว่า วันนี้มีเรื่องร้องเรียนเข้ามาหลากหลายเรื่อง

ส่วนใหญ่เป็นความคิดเห็นทางการเมือง ประชาชนอยากให้เกิดความปรองดอง โดยบอกว่ายอมรับได้กับผู้ที่มาชุมนุมเพราะได้รับความเดือดร้อนในการดำเนินชีวิต แต่ไม่เห็นด้วยกับผู้ชุมนุมที่ฉวยโอกาสนี้ก่อความรุนแรง อยากให้ศอฉ.แยก แยะคนสองกลุ่มนี้ออกจากกันและดำเนินการตามขั้นตอน

เมื่อถามถึงความเป็นไปได้ในการยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า เท่าที่ฟังจากการประชุม เรื่องนี้น่าจะได้ข้อสรุปในวันจันทร์ที่ 5 ก.ค.

ล่าสุดได้รับข้อมูลจากหน่วยงานต่างๆ ครบถ้วนแล้ว ทั้งจากกระทรวงมหาดไทย ดีเอสไอ กองทัพ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพียงแต่ข้อมูลที่ได้มายังไม่เรียบร้อยดี ซึ่งนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ในฐานะผอ.ศอฉ.บอกว่าให้นำข้อมูลไปเรียบเรียงตามลำดับความสำคัญอีกครั้งหนึ่งก่อน โดยคณะกรรมการศอฉ.จะพิจารณาให้เสร็จในวันจันทร์นี้ เพื่อเสนอต่อรัฐบาลให้ทันการประชุม ครม. วันที่ 6 ก.ค.

ผู้สื่อข่าวถามว่า ข้อมูลที่สรุปมาเป็นไปในทิศทางใดบ้าง พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า ไม่ขอตอบส่วนนี้

เพราะเรื่องการตัดสินใจว่าจะต่ออายุพ.ร.ก.หรือไม่ เป็นหน้าที่ของรัฐบาล ศอฉ. มีหน้าที่เพียงเสนอข้อมูล ถ้าศอฉ.เปิดเผยว่าคิดเห็นอย่างไร จะเป็นการกดดันรัฐบาล เมื่อถามว่าปัจจัยที่นำไปสู่การยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินมีอะไรบ้าง พ.อ.สรร เสริญ กล่าวว่า นายสุเทพ เคยพูดว่าให้ไปดูในกระบวนการทำงานของแต่ละหน่วยงานว่าดำเนินการถึงขั้นไหน จึงจะรู้สึกว่าพ.ร.กเพียงพอแล้วต่อการดำเนินงาน และไม่ทำให้เกิดความติดขัดในการปฏิบัติ

พ.อ.สรรเสริญ เปิดเผยต่อไปว่า สำหรับการดูแลความเรียบร้อย 68 จุดเสี่ยงเป็นหน้าที่ของตำรวจ แต่มีหลายจุดที่ตรวจร่วมกับทหาร

โดยเฉพาะในพื้นที่ล่อแหลม เช่น คลังน้ำมันกับบริเวณพื้นที่ที่มีประชาชนไปใช้บริการหนาแน่น เมื่อถามว่าสิ่งที่ศอฉ. กลัวที่สุดคือเรื่องการก่อวินาศกรรมหรือการลอบสังหารบุคคลสำคัญใช่หรือไม่ พ.อ.สรร เสริญ กล่าวว่า ต้องดูในทุกกรณี ต้องมองในภาพรวมของประชาชนก่อนเป็นหลักถึงความปลอดภัยในพื้นที่ต่างๆ ส่วนเรื่องความปลอดภัยของผู้นำองค์กรทั้งหลายเป็นหน้าที่ของหน่วยงานดูแลความปลอดภัยดำเนินการอยู่

เมื่อถามว่า มีข่าวจากหน่วยข่าวว่าจะมีการลอบสังหารนายกฯ ถึงขั้นใช้วิธีคาร์บอมบ์ หรือระเบิดฆ่าตัวตายหรือไม่

โฆษกศอฉ. กล่าวว่า ที่ประชุมศอฉ.ไม่ได้ระบุรายละเอียดขนาดนั้น ส่วนที่ศอฉ.ระบุว่ามี 27 บุคคลอยู่ในกระบวนการล้มสถาบันนั้น คดีความเรื่องนี้ว่าตามกระบวนการ แต่ไม่ได้กำหนดรายละเอียดถึงขั้นว่าจะต้องเอา 27 บุคคลมาแจกแจงในที่ประชุม

พ.อ.สรรเสริญ ยอมรับด้วยว่า มีคนโทรศัพท์เข้ามาข่มขู่ ด้วยถ้อยคำไม่สุภาพ แต่ไม่ได้กลัว เพราะข้าราชการทุกคนทำตามหน้าที่ ถ้าวิตกกังวลสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่เราคิดว่าเราทำตามหน้าที่ เช่น มีการส่งข้อความสั้น (เอสเอ็มเอส) มาด่าตนว่า "ไอ้สัตว์" ก็เลยโทรศัพท์กลับไปบอกว่า "ขอบพระคุณที่กรุณาให้โอกาสให้ผมเลือกได้ว่าจะเป็นอะไร ถ้าด่าผมว่าอย่างอื่น ผมคงลำบาก" ตนไม่สนใจกับคำขู่ เวลามีโทรศัพท์พวกนี้มาจะเปิดลำโพงทำงานไปตามปกติ ไม่ตัดสายทิ้ง เพราะต้องการให้ได้ระบายลดความเครียด

"ทุกวันนี้ผมยังเดินห้างได้ตามปกติ แต่ช่วงนี้ไม่ค่อยมีเวลา เลยไม่ได้ไป แต่ไม่ใช่เพราะกลัว ข้าราชการทุกคนทำตามหน้าที่ ถ้าวิตกกังวล และกลัวในสิ่งที่เราทำตามหน้าที่ ชาตินี้คงไม่ต้องทำอะไร แต่ที่พูดนี่ไม่ใช่ท้าทายอะไร หรือประมาท แต่เกิดมาไม่เคยกลัวใคร และเชื่อว่าข้าราชการทุกคนก็เป็นแบบนี้เหมือนกัน" พ.อ.สรรเสริญ กล่าว