"โฆษกมาร์ค" แขวะเพื่อไทยสัมมนาปลอบใจกันเอง ชี้ "ทักษิณ" วิตกจริต พร้อมท้ากลับไทย ตอก "เฉลิม" สู้ด้วยข้อมูลจริง ยันไม่ได้ฉวยโอกาสมติสภาสหรัฐฯ ย้อน "นพดล" อย่าบิดเบือนทำร้ายชาติ...
ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยไปสัมมนาที่พัทยา จ.ชลบุรี
หลังจากสัมมนาไป 1 วัน น่าจะมีเป้าหมาย 2 ประการ คือ 1. สัมมนาเพื่อปลอบใจกันเองหลังไปเข้าร่วมชุมนุมกับ นปช. นำมาซึ่งความสูญเสียของประเทศ และ 2. พูดคุยเพื่อปรับโครงสร้างพรรค เปิดทางให้แกนนำ นปช. เข้าควบคุมบริหารพรรคโดยเบ็ดเสร็จ จากการที่ปรับทีมเศรษฐกิจของพรรค ไล่นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ ออกจากการเป็นหัวหน้าทีม ตนทราบมาว่า มีเหตุผลที่ต้องเอานายมิ่งขวัญออก นอกจากเหตุผลการแย่งชิงการนำในพรรค ก็น่าจะมาจากบทบาททางการเมือง คือ นายมิ่งขวัญไม่ยอมที่จะไปเข้าร่วม นปช. โดยไม่ขึ้นเวทีปราศรัยโจมตีรัฐบาล และน่าจะมาจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ที่ชิงการนำเปิดและปิดญัตติ สุดท้ายตกลงไม่ได้ให้นายวิทยา บุรณศิริ ประธานวิปฝ่ายค้าน มาอ่านญัตติ จึงน่าจะเป็นเรื่องที่เอานายมิ่งขวัญออกจากทีมเศรษฐกิจ
นายเทพไท กล่าวต่อว่า การสัมมนาในครั้งนี้นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย วิเคราะห์สถานการณ์การเมือง
โดยเปรียบบ้านเมืองว่า เหมือนรถไฟ 2 ขบวน คือ ขบวนแรกบรรทุกอภิสิทธิ์ชน ทุน สื่อ และอำนาจ วิ่งมาด้วยความเร็วสูง อีกขบวนหนึ่งบรรทุกคนยากไร้ ประชาชน ซึ่งประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาประชาชนจะได้รับชัยชนะนั้น ตนเห็นว่า ไม่น่าจะเป็นเช่นนั้น แต่คิดว่าขบวนแรกน่าจะเป็นสุจริตชน ที่วิ่งด้วยความระมัดระวังบนเส้นทางของกฎหมาย แต่ขบวนที่ 2 น่าจะบรรทุกทุจริตชน บรรทุกพวกโกงกินชาติ เผาบ้านเผาเมือง จุดจบของขบวนนี้ก็จะตกรางและตายทั้งขบวน นอกจากนี้ ในการสัมมนาครั้งนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ได้วีดิโอลิงก์มา หลังจากเงียบหายไป โดยน่าจะคิดว่าสภาพพรรคเพื่อไทยหลังเหตุการณ์ความรุนแรงน่าจะเกิดความระส่ำระส่าย และความขัดแย้งหนักในพรรค จนต้องออกมาคุมเกมโดยให้บ้านเลขที่ 111 มาจัดการด้วย
นายเทพไท กล่าวอีกว่า การที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ใช้คำพูดเหมือนคนขาดความอบอุ่น พูดต่อว่าสมาชิกโดยระบุว่า "คงไม่มีใครทิ้งผม ผมไม่เคยทิ้งใครก่อน"
ตนคิดว่า พ.ต.ท.ทักษิณ กำลังวิตกว่า จะมีสมาชิกส่วนหนึ่งจะตีจากพรรคเพื่อไทย เพราะการดำเนินงานของพรรคเพื่อไทย ไม่เป็นที่ยอมรับของประชาชน บอกรัฐบาลว่าอย่ากลัวมาก ได้ยินชื่อก็กลัว โผล่หน้ามาหน้าจอก็กลัว คิดว่าสำคัญตัวเองผิด อยากเรียนว่ารัฐบาลไม่เคยกลัว และเมื่อก้าวเข้ามาเวทีทางการเมือง พรรคประชาธิปัตย์ก็ยืนหยัดต่อสู้มาตั้งแต่ปี 2544 ขณะที่ พ.ต.ท.ทักษิณ มีอำนาจรัฐอยู่เต็มมือก็ไม่เคยเกรงกลัว นอกจากนี้ การที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ประกาศว่าจะกลับประเทศไทยในปลายปีนี้นั้น เคยประกาศหลายครั้ง และไม่เคยเดินทางกลับมา คนไทยอยากให้กลับมาตอนนี้เลย เพราะมีคดีความติดตัวจำนวนมาก กระบวนการยุติธรรมจะได้ไม่เสียเวลาในการติดตามตัว กล้าเดินทางกลับมาหรือไม่
ส่วนกรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย ออกมาสัมภาษณ์เรื่องแผนปรองดองว่า รัฐบาลชุดนี้ฉวยโอกาสเอามติของสภาสหรัฐฯ มาโฆษณานั้น
นายเทพไท กล่าวว่า รัฐบาลไม่ได้ฉวยโอกาสมาอวดอ้าง แต่เป็นข้อเท็จจริงที่คนไทยอยากเห็นสังคมปรองดองก็น่าจะภาคภูมิใจ และข่าวนี้เริ่มจากสื่อต่างๆ ออกมาเผยแพร่ รัฐบาลก็ออกมาอธิบายในฐานะเป็นมิตรประเทศกัน อย่างไรก็ตาม ตนคิดว่าเป็นข่าวดีของประเทศด้วย เพียงแต่คนของ พ.ต.ท.ทักษิณ พยายามล็อบบี้ให้ข้อมูลในทางที่เสียหาย ตรงนี้เองน่าจะเป็นผลเสียกับพรรคเพื่อไทยมากกว่า นอกจากนี้ ร.ต.อ.เฉลิม ยังออกมาทำนายอายุของรัฐบาลว่า จะมีจุดจบเหมือน 14 ตุลา หรือเหตุการณ์พฤษภาทมิฬว่า ร.ต.อ.เฉลิม ทำตัวเป็นโหรหลายครั้ง การทำนายไม่เคยถูกเลย ทั้งนี้ อนาคตของรัฐบาล ไม่มีใครรู้จะเป็นอย่างไร แต่รัฐบาลมุ่งมั่นทำดีให้มากที่สุด เพราะเชื่อว่าคนทำดีจุดจบของชีวิตก็จะพบแต่ความดี
กรณีนายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมายส่วนตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ออกมาพูดว่าการเดินทางไปสหรัฐฯ เป็นการใช้เงินส่วนตัวว่า คนก็รู้ทั่วประเทศว่าเป็นเงินส่วนตัวที่ได้มาจาก พ.ต.ท.ทักษิณ หรือไม่
ที่ระบุว่ารัฐบาลไม่ต้องเดือดร้อนอะไรมากนั้น ขอยืนยันว่า เราไม่ได้เดือดร้อนกับการเดินทางไปของนายนพดล แต่ที่ต้องเดือดร้อนเพราะการเดินทางไปบิดเบือนข้อมูล ทำให้ประเทศเสียหาย รัฐบาลในฐานะเป็นผู้บริหารประเทศ เป็นตัวแทนประเทศ ยอมไม่ได้ที่จะให้คนกลุ่มหนึ่งทรยศต่อชาติบ้านเมือง นำข้อมูลผิดๆ ไปบอกกับคนต่างประเทศ ทั้งนี้ ไม่มีใครห้ามนายนพดล หากจะเดินทางไปยุโรป แต่ขออย่างเดียวอย่าไปบิดเบือนใส่ร้ายให้ข้อมูลในยุโรป ทำให้ประเทศไทยเสียหาย รัฐบาลยอมไม่ได้ ทั้งนี้ จะจับตาดูว่าผลตอบรับการไปบิดเบือนในต่างประเทศ ผลจะออกมาเป็นอย่างไร
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
