อุบลฯรวบแล้ว 64แดง เผาศาลากลาง

ผบช.ภ.3 เผยไล่จับคนเสื้อแดงเผาศาลากลางเมืองอุบลได้แล้วกว่า 64 ราย ชี้อีกกว่า 80 รายทราบชื่อที่อยู่ชัดเจนอยู่ระหว่างติดตามตะครุบตัว ระบุยังคง พ.ร.ก.ฉุกเฉินอีกระยะหนึ่ง......

เมื่อวันที่ 3 ก.ค.เวลา 09.00 น.ที่สำนักงานตำรวจภูธรภาค 3 พล.ต.ท.เดชาวัต รามสมภพ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 เปิดเผยถึงการติดตามจับกุม กลุ่มคนเสื้อแดงที่มีหมายจับในพื้นที่รับผิดชอบ 8 จังหวัดอีสานตอนล่างว่า ในการติดตามจับกุมผู้กระทำผิดตามหมายจับนั้น ไม่ได้ระบุว่าเป็นกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดงเพียงกลุ่มเดียว แต่ตำรวจได้ติดตามคนร้ายที่เป็นคดีค้างเก่าทั้งหมด รวมถึงผู้กระทำผิดในคดีต่างๆ ไม่ได้เจาะจงตัวบุคคลหรือกลุ่มบุคคลใดกลุ่มหนึ่ง แต่หากได้ข่าวตัวบุคคลใดชัดเจน มีการสืบสวนติดตามได้ชัดเจนขึ้นมา ก็ต้องเข้าทำการจับกุมเป็นราย ๆ ไป

ส่วนการติดตามผู้ก่อเหตุเผาศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานีนั้น พล.ต.ท.เดชาวัต กล่าวว่า

ขณะนี้ได้ดำเนินการจับกุมผู้กระทำผิดไปแล้วมากกว่า 64 ราย โดยเป็นผู้ก่อเหตุในพื้นที่ จ.อุบลราชธานี จำนวน 10 รายที่เหลือเป็นพื้นที่จังหวัดอื่น ส่วนที่ตรวจสอบจนทราบชื่อและที่อยู่ชัดเจนอีก 80 กว่ารายนั้น ขณะนี้ตำรวจได้เร่งติดตามจับกุมตัวอยู่ และพยายามตรวจสอบให้ทราบที่อยู่และรายชื่อเพิ่มเติมอีกตามหมายจับที่มีอยู่ กว่า 300 ราย ซึ่งการดำเนินการมีความคืบหน้าไปมาก

พล.ต.ท.เดชาวัต กล่าวอีกว่า จากการติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่ม นปช. หรือกลุ่มคนเสื้อแดงในพื้นที่ 8 จังหวัดอีสานตอนล่าง ทั้งนครราชสีมา,ชัยภูมิ,บุรีรัมย์,ศรีสะเกษ,สุรินทร์,อุบลราชธานี, อำนาจเจริญ และยโสธร ที่ผ่านมายังไม่พบการเคลื่อนไหวที่สำคัญแต่อย่างใด ทุกอย่างอยู่ในภาวะปกติ โดยเฉพาะกองกำลังติดอาวุธก็ไม่พบการเคลื่อนไหวในพื้นที่

ผู้สื่อข่าวถามที่ว่า มาถึงขณะนี้ควรจะยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในพื้นที่ภาคอีสานหรือไม่นั้น พล.ต.ท.เดชาวัต กล่าวว่า

ขณะนี้ได้หารือและประสานกับทางกองทัพภาคที่ 2 อยู่ การที่จะพิจารณายกเลิกหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับสถานการณ์และการประเมิน สถานการณ์จากหลายหน่วยงานมาประกอบกันทั้งทางตำรวจ, ฝ่ายปกครอง โดยผู้ว่าราชการจังหวัด และฝ่ายทหาร ซึ่งมีฐานข่าวอยู่ในพื้นที่ จะมีข้อมูลที่จะนำมาตัดสินใจว่าจะยกเลิกหรือไม่อย่างไร ซึ่งจะต้องร่วมกันตัดสินใจและเสนอรัฐบาลต่อไป แต่ในส่วนของตำรวจก็จะวิเคราะห์สถานการณ์การข่าวส่วนที่เราติดตามเท่านั้น เพื่อป้อนให้กับทางฝ่ายปกครองและฝ่ายทหาร ซึ่งการพิจารณาต้องร่วมกันหลายฝ่าย แต่ในการติดตามทางการข่าวยังไม่พบการเคลื่อนไหวที่ร้ายแรงพอจะเป็นอันตราย

ส่วนการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินในพื้นที่ภาคอีสานนั้น พล.ต.ท.เดชาวัต กล่าวว่า ที่ผ่านมาไม่ได้ส่งผลกระทบต่อประชาชนแต่อย่างใด ทุกคนก็ยังคงใช้ชีวิตเป็นปกติสุขไม่ได้มีปัญหาอะไร ไม่ได้ไปลิดรอนสิทธิของประชาชนในการดำรงชีวิตประจำวันแต่อย่างใด และทุกคนก็ไม่รู้สึกอึดอัดอะไรคิดว่าการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เป็นเครื่องมือในการทำงานของเจ้าหน้าที่มากกว่า เพื่อป้องกันการก่อเหตุร้าย ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีและควรคงไว้ต่อไปอีกสักระยะก็ได้.