ผบ.ทบ.นำทีมแจง กมธ.งบประมาณ

ผบ.ทบ.นำทีม ผบ.เหล่าทัพ ชี้แจงงบกลาโหม-กมธ.งบประมาณ ปี 54 ที่รัฐสภา


วันนี้ (2 ก.ค.) ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2554

โดยวันนี้เป็นการพิจารณางบประมาณของกระทรวงกลาโหม จำนวน 1.7 แสนล้านบาท ซึ่งผู้บัญชาการทุกเหล่าทัพได้เดินทางชี้แจงด้วยตัวเอง ประกอบด้วย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.พล.อ.อ.อิทธพร ศุถวงศ์ ผบ.ทอ. พล.ร.อ.กำธร พุ่มหิรัญ ผบ.ทร. พล.อ.อภิชาต เพ็ญกิตติ ปลัดกระทรวงกลาโหม
              
ทั้งนี้ การประชุมเริ่มต้นด้วยการชี้แจงถึงความจำเป็นในการจัดสรรของบประมาณดังกล่าว

โดย พล.อ.อภิชาติ กล่าวว่า กระทรวงกลาโหมเป็นองค์กรนำในการสร้างหลักประกันความมั่นคงของรัฐ และปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ เพื่อความผาสุกของประชาชน ด้วยการพัฒนากองทัพให้มีศักยภาพ เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ ใช้เทคโนโลยีทันสมัย และการบริหารจัดการสมัยใหม่ นอกจากนี้ มีพันธกิจรักษาเอกราช และความมั่นคงของรัฐ ปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ รักษาผลประโยชน์ของชาติ พัฒนาประเทศ ช่วยเหลือประชาชน และแก้ไขปัญหาสำคัญของชาติในด้านต่าง ๆ
              
จากนั้น กมธ.ได้ซักถาม โดย นายวิทยา บุรณศิริ ประธานวิปฝ่ายค้าน ในฐานะรองประธาน กมธ. ถามว่า

ทราบมาว่าในการรักษาความสงบในช่วงเหตุการณ์ทางการเมืองที่ผ่านมา มีสนธิกำลังของทหารประมาณ 5 หมื่นนาย จึงอยากทราบว่า เป็นปฏิบัติการของกำลังพลของหน่วยไหนบ้าง และมีการสูญเสียของกำลังพลเท่าไหร่ พร้อมกับต้องการสอบถามถึงงบประมาณในการใช้จ่ายงบประมาณ ตั้งแต่การควบคุมสถานการณ์ตั้งแต่เดือน เม.ย.-พ.ค. รวมทั้งอยากให้มีการเปรียบเทียบกับการใช้งบประมาณในการรักษาความสงบในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพราะที่ผ่านมาดูเหมือนว่ากองทัพกำลังเลี้ยงไข้ในสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนภาคใต้
              
นางชุมศรี พจนปรีชา รอง ผอ.สำนักงบประมาณ ชี้แจงว่า ศอฉ.แต่งตั้งตามอำนาจของสำนักนายกรัฐมนตรี

ซึ่งประกอบไปด้วยหน่วยความมั่นคงทั้งหมด โดยมีเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เป็นเลขาธิการ ทั้งนี้ ในเรื่องตัวเลขงบประมาณการใช้จ่ายทั้งหมด ตอนนี้อยู่ในระหว่างการรวบรวม เพื่อชี้แจงต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) โดยเมื่อได้ข้อสรุปแล้วจะสามารถเสนอต่อสาธารณะได้ เช่นเดียวกับ พล.อ.อภิชาติ กล่าวว่า ขณะนี้สถานะของ ศอฉ.ยังดำรงอยู่ตาม พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ทำให้การปิดยอดงบประมาณรวมทั้งหมดของ ศอฉ.ยังไม่สามารถตอบได้ในตอนนี้
              
ด้าน ดร.ไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองนายกฯ ในฐานะประธาน กมธ. กล่าวว่า ในเรื่องนี้ได้โทรศัพท์กำชับเป็นการส่วนตัวไปยัง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ และ ผอ.ศอฉ. ให้มีการสรุปตัวเลขแล้ว แต่เนื่องจากว่ากระทรวงกลาโหม และกองทัพ ไม่มีอำนาจเกี่ยวกับจัดสรรงบประมาณ เพราะเป็นหน้าที่ของสำนักนายกฯ ทำให้ถ้าเมื่อถึงวาระการพิจารณาของสำนักนายกฯ เมื่อไหร่ ตอนนั้นก็ค่อยมีการซักถามกันให้ละเอียดกันอีกที
              
ส่วน นางอนุสรา ยังตรง ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย สอบถามว่า การรักษาเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมืองที่ผ่านมา

ทางกองทัพบกมีการเบิกปืนสไนปเปอร์ไปกี่กระบอก และมีการเบิกกระสุนไปกี่นัด และหน่วยไหนเป็นผู้ใช้ปืนชนิดนี้ เช่นเดียวกับปืนเอ็ม16 มีการเบิกกระสุน และอาวุธไปใช้ในการปฏิบัติการเท่าไหร่ นอกจากนี้ อยากทราบว่า ทำไมเกิดความเหลื่อมล้ำในเรื่องเบี้ยเลี้ยง และค่าอาหารของกำลังพลที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ กทม. และพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพราะกำลังพลใน กทม. ได้รับถึง 400 บาท ขณะที่ ผู้ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ภาคใต้ได้เพียง 210 บาท ทั้ง ๆ ที่ภารกิจมีความเสี่ยงต่างกันสูง.


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์