ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคมสำนักงานกฎหมายอัมสเตอร์ดัม แอนด์ เปรอฟ ที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จดหมายระบุ สํานักงานฯ เข้าใจว่ารายชื่อข้างต้นมีฐานะเป็นผู้แทนหน่วยงานของรัฐบาลไทย "สําหรับกรณีของลูกความบางราย สิทธิที่จะทําการตรวจสอบพยานหลักฐานย่อมเกี่ยวพันไปถึงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับการเสียชีวิตของบุคคลจํานวน 90 ราย ที่เกิดขึ้นในระหว่างที่มีการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง โดยพยานหลักฐานจะเป็นตัวพิสูจน์ว่ารัฐบาลไทยได้ปฏิบัติต่อประชาชนที่เข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่มคนเสื้อแดงอย่างเหมาะสมและโดยสมควรแก่เหตุหรือไม่ และยังเป็นสิ่งที่จะพิสูจน์ว่า การใช้กําลังเข้าสังหารพลเรือนโดยรัฐบาลไทย เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนหรือไม่ และการใช้กําลังของรัฐบาลไทยเป็นเหตุชนวนที่ก่อให้เกิดการใช้ความรุนแรงหรือไม่ ข้อเท็จจริงเหล่านี้เป็นสิ่งที่จําเป็นและเกี่ยวข้องโดยตรงในการพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของลูกความ อย่างน้อย 13 คน ซึ่งถูกกล่าวหาว่ากระทําความผิดอาญาอย่างร้ายแรง ซึ่งมีโทษสูงสุดถึงประหารชีวิต" จดหมายระบุ จดหมายระบุอีกว่า ส่วนการดําเนินการของรัฐบาลไทย ที่เป็นการละเมิดหลักประกันต่อพลเรือน ให้ดําเนินการผ่านทางองค์กรที่มีความอิสระและเป็นกลาง สืบสวนสอบสวนถึงการใช้กําลังอาวุธโดยหน่วยงานของรัฐบาลไทยที่กระทําต่อประชาชนผู้ร่วมการชุมนุมกับกลุ่มคนเสื้อแดง เก็บรักษาพยานหลักฐานต่างๆ ทั้งวัตถุพยาน พยานในทางนิติเวช เอกสาร เทปบันทึกภาพและเสียงที่อยู่ในความครอบครองของหน่วยงานราชการของไทยที่เกี่ยวเนื่องกับการชุมนุม รวมถึงพยานหลักฐานที่อาจบ่งชี้ถึงการกระทําที่อาจเป็นการผิดกฎหมายอาญาของพ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร หรือแกนนํา นปช. ขอให้เปิดเผยรายละเอียดของพยานหลักฐานต่างๆต่อคณะทนายความ และการสั่งการของเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลที่เกี่ยวข้องหรือโต้ตอบต่อการชุมนุม ยุทธศาสตร์การปฏิบัติการของทหารในการจัดการสลายการชุมนุมตามยุทธศาสตร์ทางการทหารเป็นฐานในการออกคําสั่งในทางปฏิบัติ เพื่อทําการสลายการชุมนุม ขอให้อนุญาตและเปิดโอกาสให้ลูกความ โดยการดําเนินการแทนโดยคณะทนายความตรวจสอบ วัตถุพยานต่างๆ ทําการชันสูตรและวิเคราะห์หลักฐานในทางนิติเวชโดยอิสระ ซึ่งรวมถึงการชันสูตรศพ การทดสอบการใช้ยุทธภัณฑ์ทหาร และการวิเคราะห์วิถีกระสุนที่เกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตที่เกิดขึ้นในระหว่างการชุมนุม รวมถึงการสอบปากคํา การไต่สวนคําให้การของพยาน รวมถึงบรรดาเอกสารของหน่วยงานราชการหรือทหารเกี่ยวกับ แผนการหลักจนนําไปสู่เหตุวุ่นวาย
ว่าจ้างเพื่อต่อสู้คดีตามข้อกล่าวหาผู้ก่อการร้าย ได้เผยแพร่จดหมายผ่านทางเว็บไซต์www.robertamsterdam.com โดยจดหมายดังกล่าวเป็นการแปลจากภาษาอังกฤษ และถูกเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์เดียวกันเมื่อวันที่ 29 มิถุนายนที่ผ่านมา ระบุ ส่งถึงบุคคล ซึ่งประกอบด้วย นายคณิต ณ นคร ประธานคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อความ ปรองดองแห่งชาติ นาย กิติพงษ์ กิติยารักษ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม เลขานุการคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงฯ นายธาริต เพ็งดิษ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เรื่อง การดําเนินการสอบสวนกรณีที่มีผู้เสียชีวิตระหว่างการชุมนุม ของกลุ่มคนเสื้อแดง ช่วงเดือนเม.ย.-พ.ค. 2010
ซึ่งมีหน้าที่และความรับผิดชอบต่อการดําเนินการสอบสวนคดีอาญาที่มีการกล่าวหาต่อลูกความของสํานักงานฯ จึงขอย้ำถึงสิทธิของลูกความ ในการได้รับการพิจารณาคดีอย่างเป็นธรรมตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ ตรวจสอบและวิเคราะห์อย่างละเอียดถึงความเหมาะสมและความสมควรแก่เหตุของการใช้กําลังของหน่วยงานรัฐบาลไทยที่กระทําต่อการชุมนุม สนธิสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิทางการเมืองและสิทธิของ ซึ่งประเทศไทยเป็นประเทศตกลงเข้าผูกพันมีข้อกําหนดให้หลักประกันแก่ลูกความ สิทธิขั้นพื้นฐานในการได้รับสิทธิที่จะต่อสู้คดีอย่างเป็น
ว่าจะไม่ถูกกระทําวิสามัญฆาตกรรมและการกักขังหนวงเหนี่ยวไว้ตามอําเภอใจ อาจเป็นการกระทําที่เป็นอาชญากรรมตามกฎหมายระหว่างประเทศ แม้ว่าการกระทําต่างๆ ของรัฐบาลจะอ้างว่าเป็นการใช้อํานาจตามกฎหมายหรือสถานการณ์ฉุกเฉินหรือเหตุกรณีพิเศษ ด้วยเหตุนี้ รัฐบาลไทยจึงมีภาระหน้าที่ตามสนธิสัญญาระหว่างประเทศที่จะทําการสืบสวนสอบสวนอย่างเต็มที่ ครบถ้วน และเป็นธรรม ในสภาวการณ์เช่นนี้ รัฐบาลไทยจะต้องให้องค์กรที่เป็นอิสระและมีความเป็นกลางทําการสอบสวนข้อเท็จจริง มีหน้าที่ที่ชัดเจนตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ นอกจากนี้ตามที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ได้กําหนด ข้อวาม อาจมีสถานการณ์ที่หากรัฐไม่ปฏิบัติตามภาระหน้าที่ตามมาตรา 2 ของสนธิสัญญาจะนําไปสู่การกระทําอันถือว่าเป็นการละเมิดสนธิสัญญาโดยรัฐ เนื่องจากการที่รัฐปล่อยหรือละเลยที่ใช้มาตรการที่ปฏิบัติภาระหน้าที่ด้วยความระมัดระวังในการป้องกัน ลงโทษตรวจสอบหรือเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการกระทําผิดเหล่านั้น ภายใต้หลักการของกฎหมายระหว่างประเทศดังกล่าว ลูกความจึงมีสิทธิที่จะร้องขอ และโดยหนังสือฉบับนี้ ถือเป็นร้องขอต่อรัฐบาลไทยให้ดําเนินการอาทิ
ทนายแม้วบี้รบ.ไทยหนักจี้แจงสอบม็อบแดง
เครดิต : ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!