ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 30 มิถุนายน ที่กองบัญชาการกองทัพบก
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) เป็นประธานในการประชุมศอฉ.โดยมีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียงโดยใช้เวลาในการประชุม 1 ชั่วโมง โดยในที่ประชุมนายสุเทพ แจ้งให้ที่ประชุมรับทราบถึงกรณีที่ศาลแพ่งยกคำร้องของ นายจตุพร พรหมพันธ์ แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง ที่ยื่นคำร้องต่อศาลว่า การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ไม่ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย แต่ศาลแพ่งพิจารณาแล้วว่า พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ครอบคลุมและคุ้มครองการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตามมาตรา 17 ของพ.ร.ก.ฉุกเฉินที่ระบุว่า พนักงานที่มีอำนาจหน้าที่ตามพ.ร.ก.ไม่ต้องรับผิดทางแพ่ง ทางอาญา หรือทางวินัย เนื่องจากเป็นการปฏิบัติหน้าที่ในการระงับหรือป้องกันการกระทำที่ผิดกฎหมาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในที่ประชุมทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)
ได้ชี้แจงกรณีที่มีการตรวจสอบการทำธุรกรรมที่ต้องสงสัยของบุคคล 83 ราย ซึ่งจากการดำเนินการในช่วง 3 วันที่ผ่านมามีผู้ที่มาชี้แจงด้วยตนเอง และส่งผู้แทนมาชี้แจงรวม 23 ราย จากทั้งหมด 24 ราย ซึ่งขาดเพียง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เท่านั้น ที่ยังไม่ได้เข้ามารายงานตัวหรือส่งผู้แทนคนใดมาชี้แจงแทนตามวัน เวลาที่กำหนด
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ต้องให้เวลา พ.ต.ท.ทักษิณว่า จะดำเนินการต่อไปอย่างไร
เนื่องจากคาดว่า ขณะนี้อาจอยู่ในระหว่างที่พ.ต.ท.ทักษิณ จัดทำเอกสารมอบอำนาจให้ตัวแทนเข้ามาชี้แจงแทน เพราะที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณเคยแจ้งความจำนงว่า จะให้ที่ปรึกษาทางด้านกฎหมายเข้ามาชี้แจงแทน ซึ่งหากในที่สุด พ.ต.ท.ทักษิณ ยังไม่มาชี้แจง ทางดีเอสไอก็จะดำเนินการตามกฎหมาย ต่อไป
นอกจากนี้ในวันที่ 1 ก.ค.นี้ เวลา 09.30 น. ที่กองบัญชาการกองทัพบก ทางศอฉ.โดยพ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกศอฉ. ผู้แทนจากดีเอสไอ และผู้แทนจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะมีการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนประจำสัปดาห์ เพื่อชี้แจงถึงความคืบหน้าในการดำเนินการของศอฉ.ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา