ขอคืนพื้นที่ประชาธิปไตย “สมยศ” เตรียมส่งทนายยื่นฟ้องค่าเสียหายจากรัฐ อ้างใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เกินความจำเป็น
วันนี้ (27 มิ.ย.) ที่โรงแรมมิโด สะพานควาย นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข แกนนำกลุ่ม 24 มิ.ย. และแนวร่วมกลุ่ม นปช. แถลงข่าว การเปิดตัวนิตยสาร RED POWER คืนพื้นที่ประชาธิปไตย และเสรีภาพให้กับคนไทยทุกคน ว่า จากการที่รัฐบาลอภิสิทธิ์ ใช้อำนาจตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ห้ามจำหน่ายจ่ายแจกเผยแพร่นิตยสาร VOICE OF THAKSIN / THAIRED NEWS และความจริงวันนี้ รวมทั้งปิดวิทยุชุมชนสถานีโทรทัศน์ดาวเทียม ปิดเว็บไซต์ ทำให้หนังสือตกค้างเกิดความเสียหาย ถือเป็นการปิดกั้นข้อมูลข่าวสารของประชาชน เป็นการลิดรอนสิทธิเสรีภาพการแสดงความคิดเห็น สิทธิการติดต่อสื่อสาร การประกอบอาชีพตามรัฐธรรมนูญ และละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างรุนแรง ขัดต่อหลักปฎิญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ทำให้สังคมไทยกลายเป็นสังคมที่ป่าเถื่อน ล้าหลังเข้าสู่ยุคมืดแห่งการเป็นเผด็จการ อันจะนำมาซึ่งความแตกแยกอย่างรุนแรงในสังคมไทย
นายสมยศ กล่าวต่อว่า การประกาศแผนปรองดองของรัฐบาล และการปฎิรูปประเทศไทยจึงเป็นเพียงแค่กลลวงของรัฐบาลที่จะอยู่ในอำนาจ โดยไม่คำนึงถึงความถูกต้องชอบธรรมในระบอบประชาธิปไตย ดังนั้น การปรองดองที่แท้จริงจึงไม่อาจเกิดได้ในบรรยากาศที่น่าสะพรึงกลัวของการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และความเป็นเผด็จการในการปิดกั้นข่าวสาร เพื่อเป็นการแสดงให้เห็นว่าสังคมไทยยังมีความเป็นธรรมหลงเหลืออยู่ ยังมีความหวังต่อแผนปรองดอง ลดอุณหภูมิทางการเมือง ทางคณะผู้จัดทำ VOICE OF THAKSIN จึงร่วมจัดทำนิตยสาร RED POWER เพื่อสร้างความเป็นธรรมในสังคม โดยใช้ทีมงานเดิม และจะวางจำหน่ายในวันที่ 3 ก.ค. ราคาเล่มละ 40 บาท
นายสมยศ กล่าวต่อว่า การสั่งห้ามทำธุรกรรมทางการเงินของ นายสุธรรม แสงประทุม และตนเอง ในการทำนิตยาร VOICE OF THAKSIN ถือเป็นการกระทำที่เป็นการกลั่นแกล้งคุกคามเสรีภาพ นำมาสู่ความเสียหายต่อการประกอบอาชีพ และการแสดงความเห็นโดยสุจริต ซึ่งตนจะแต่งตั้ง นายสุวิทย์ ทองนวล ทนายความที่ปรึกษาทางกฎหมาย ให้รวบรวมข้อกฎหมาย และพยานหลักฐาน ยื่นฟ้องเรียกร้องค่าเสียหายจากรัฐบาล โดยจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 10 ก.ค. เพราะ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เป็นกฎหมายนักเลงโต ทำเกินขอบหน้าที่ และความจำเป็น เป็นการลุแก่อำนาจที่เป็นอันตรายต่อสังคมไทย และตนอยากจะเรียกร้องให้สื่อ นักวิชาการ นักการเมือง นักสิทธิมนุษยชน ร่วมกันตรวจสอบการขยายเวลาการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ว่า ใช้อำนาจในการปราบปรามประชาชนหรือไม่ เพื่อจะได้ช่วยเรียกร้องให้ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ยุติการคุกคามสื่อ คืนพื้นที่ความสงบ คืนพื้นที่ประชาธิปไตยให้ประชาชน.