มาร์คปลุก อสม.ร่วมแผนปรองดองแห่งชาติ

ระบุ งานเพื่อสังคมจะมีความท้าทายมากขึ้น แต่เชื่อศักยภาพและเครือข่ายของ อสม.จะทำให้บรรลุผลสำเร็จ เพราะสมาชิกกว่า 1 ล้านคน มีความใกล้ชิดกับประชาชนในพื้นที่อยู่แล้ว...

เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. ที่หอประชุมกองทัพเรือ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ดิเรกคุณาภรณ์ จากพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวแก่อาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) ทั่วประเทศดีเด่น 2551-2553 ประกอบด้วย ชั้นเหรียญทอง 14 คน ชั้นเหรียญเงิน 30 คน และมอบรางวัลเข็มทองคำเชิดชูเกียรติ พร้อมใบประกาศเกียรติคุณแก่ อสม.ดีเด่นระดับชาติ ประจำปี 2553 จำนวน 15 คน ใน 12 สาขาด้วย โดยมีนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นางพรรณสิริ กุลนาถศิริ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ร่วมงานเชิดชูเกียรติ อสม.เนื่องในวันอาสาสมัครสาธารณสุขแห่งชาติ 20 มี.ค. 2553 มีผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุจ อาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) ทั่วประเทศ รวมทั้ง อสม.ดีเด่นระดับชาติ ปี 2540-2552 และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขร่วมงานกว่า 2,500 คน

นายกรัฐมนตรี กล่าวตอนหนึ่งว่า บทบาทของ อสม. แม้จะเป็นการอาสาเข้ามาทำงาน แต่การทำงานมีความเสียสละทุ่มเททั้งกำลังกาย กำลังใจปัจจุบันการทำงานของ อสม.จะมีความท้าทายมากขึ้นเพราะความเปลี่ยนแปลง ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง ปัจจุบันบ้านเมืองและสังคมกำลังประสบภาวะวิกฤติ ซึ่งวิกฤติการณ์ทางการเมืองเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น แต่ความขัดแย้งทางการเมืองในช่วงระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา ที่รัฐบาลกำลังเดินหน้าในการขับเคลื่อนเพื่อนำไปสู่ความปรองดอง โดยมีมาตรการนโยบายและกระบวนการในการปฏิรูปในหลายแนวทาง

ทั้งนี้ ความสำเร็จในเรื่องการปรองดอง เพื่อคืนความสุขให้กับประชาชนคนไทยนั้น มีหัวใจสำคัญอยู่ที่การมีส่วนร่วม และความรู้สึกของความเป็นเจ้าของงานนี้ของ ประชาชนคนไทยทุกคน เชื่อมั่นว่าโดยศักยภาพและเครือข่ายของ อสม.จะมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการทำ ให้เราสามารถบรรลุผลสำเร็จและเป้าหมายของการปรองดองในชาติและในระดับชุมชน จากการที่ อสม.ที่มีอยู่ทั่วประเทศประมาณ 1 ล้านคน มีความใกล้ชิดกับประชาชนในพื้นที่ต่างๆ อยู่แล้ว ได้รับความไว้วางใจจากประชาชนในชุมชนและในท้องถิ่น ดังนั้น อสม.จะมีส่วนสำคัญเป็นอย่างยิ่งในการทำให้ประชาชนคนไทยสามารถที่จะอยู่ร่วมกันได้ ท่ามกลางความหลากหลาย และความแตกต่างทางความคิด ไม่ว่าจะในทางการเมืองหรือในทางอื่นใดตนจึงหวังอย่างยิ่งว่าเวลาต่อจากนี้ไป อสม.จะทำหน้าที่ในส่วนนี้เพื่อผลักดันให้สังคมของเราผ่านพ้นวิกฤตการณ์ที่ สร้างความยากลำบาก ความเดือดร้อน และความทุกข์ให้กับคนไทยมาระยะเวลาหนึ่ง.