สุรยุทธ์ เห็นใจครอบครัวโชเฟอร์ แท็กซี่

สืบเนื่องจากกรณีที่นายนวมทอง ไพรวัลย์ แท็กซี่ที่ขับรถชนรถถัง ได้ผูกคอตายเพื่อประท้วงการทำรัฐประหารของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ในขณะเดียวกัน ก็มีการชุมนุมประท้วง คมช. ที่ท้องสนามหลวง และมีความพยายามที่จะนำศพนายนวมทองไปตั้งที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เพื่อปลุกกระแสการชุมนุมประท้วงต่อต้าน คมช.นั้น

นายกฯให้คนรับเมียแท็กซี่มาพบ

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 2 พ.ย. ที่สนามบินกองการบิน กรมขนส่งทหารบก ดอนเมือง เจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สภ.อ.เมืองนนทบุรี ได้พาตัวนางบุญชู ไพรวัลย์ ภรรยาของนายนวมทอง ไพรวัลย์ มารอพบ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ที่เดินทางกลับจากการพบปะผู้นำชุมชนและผู้นำศาสนาใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ กระทั่งเวลา 16.30 น. เมื่อ พล.อ.สุรยุทธ์เดินทางมาถึง ก็ตรงเข้าไปพบกับนางบุญชู ภายในห้องรับรอง ประมาณ 15 นาที และกลับออกมาให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ได้สอบถามนางบุญชูว่าครอบครัวเป็นอย่างไรบ้าง นางบุญชูก็บอกว่าตัวเขาไม่มีพ่อแม่แล้ว ก็เหมือนเสาหลักหักไป ก็บอกว่าในฐานะที่ผ่านประสบการณ์ในลักษณะขาดเสาหลักเช่นนี้มาแล้ว ก็เข้าใจดี และก็ไม่อยากให้เรื่องทางการเมืองมามีปัญหาจนกระทั่งทำให้เกิดความสูญเสีย หรือเหตุการณ์ที่บางท่านถึงกับเสียชีวิตไป ได้เสนอกับนางบุญชูว่า ในช่วงเวลานี้จะช่วยเรื่องการจัดการศพของนายนวมทอง โดยมอบหมายให้ ผวจ.นนทบุรีช่วยดูแล และหากต่อไปมีปัญหาเกินความสามารถของ ผวจ. นนทบุรี ก็จะหาทางช่วยเหลือให้สามารถดูแลตัวเองได้ ดูแลบุตรที่เพิ่งจบการศึกษา ที่จะรับปริญญาในวันที่ 8 พ.ย.นี้ได้

เรื่องที่เกิดขึ้นมีหลายฝ่ายหลายความคิดเห็น แต่อยากเรียนว่า เราทุกคนไม่อยากเห็นอะไรนอกระเบียบ แต่บางครั้งเมื่อเหตุเกิดขึ้นแล้วทำอย่างไร ที่เราจะมามองหาการปกครองที่เราอยากเห็นอยากได้ แล้วนำบทเรียนจากครั้งที่แล้ว ที่ผ่านมาหยกๆ มาหาทางแก้ไข ให้เกิดขึ้น มันจะดีกว่าที่จะมาบอกว่า ผมไม่ชอบ ผมไม่เอา แต่ไม่ได้บอกทางออกเลยว่าจะทำกันอย่างไร ถ้าเรายังมองเพียงแต่ว่าผมไม่เอาคุณ ไม่ชอบคุณ แต่ไม่ได้มองทางออกว่าในอนาคตจะทำอย่างไร มันจะไม่มีทางแก้ไขปัญหาได้เลย แต่จะต้องมองหาทางแก้ไข และมาช่วยกัน ผมเปิดโอกาสไว้ตลอดว่า ท่านเห็นเป็นอย่างไร มาแสดงความคิดเห็นกับผมได้ พร้อมที่จะรับฟัง ไม่ว่าใครก็ตาม พล.อ.สุรยุทธ์กล่าว

ควรจะพอกันเสียทีกับความรุนแรง

พล.อ.สุรยุทธ์กล่าวว่า อยากจะบอกให้พี่น้องประชาชนว่าเราควรจะพอกันเสียทีกับความรุนแรงกับเหตุการณ์ที่เป็นปัญหา และบ้านเมืองไม่ได้มีความสงบ เราควรจะรวมกัน แล้วหาทางฟันฝ่าปัญหานี้ออกไปให้ได้ ก้าวไปข้างหน้าด้วยกัน แก้ปัญหาร่วมกัน นั่นจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด เพราะเมื่อจบอย่างเร็ว อย่างที่บอกแล้วว่า ถ้าหากจบการทำงานของตนเร็วที่สุด ท่านก็จะมีโอกาสที่จะเลือกรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ไม่ได้คิดจะอยู่ต่อ ไม่มีใครคิดอยู่ แต่อยากจะทำให้เหตุการณ์ที่ผ่านไปตรงนี้มันเป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อย เรา จะเดินหน้าไปสู่จุดนั้นให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ ก็จะเป็นเป้าหมายร่วมกัน เมื่อถามว่า นางบุญชูได้พูดถึงข้อเรียกร้องที่จะให้ พ.อ.อัคร ทิพย์โรจน์ อดีตรองโฆษก คปค. ไปขอขมาศพนายนวมทองหรือไม่ พล.อ.สุรยุทธ์ตอบว่า ไม่ได้คุยกัน คุยแต่เรื่องงานศพ และเรื่องอนาคตข้างหน้าของครอบครัวนายนวมทอง ว่าจะช่วยกันอย่างไร ก็บอกว่าเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่อยากให้เกิดเหตุอย่างนี้ แต่เมื่อเกิดแล้วก็หาทางแก้ ช่วยกันดูแลครอบครัวที่ยังอยู่ คนเสียชีวิตไปแล้ว จะให้กลับฟื้นขึ้นมาไม่ได้แล้ว ก็พูดกับเขาก็เข้าใจแล้วว่ามันดึงกลับมาไม่ได้แล้ว

ทางด้านนางบุญชูกล่าวว่า การเดินทางมาพบนายกฯครั้งนี้ เดินทางมาด้วยตนเองไม่ได้มีใครเชิญมา เมื่อถามว่านายกฯได้พูดและฝากอะไรเป็นพิเศษหรือไม่ นางบุญชูตอบว่าบอกไม่ได้ เมื่อถามว่าจะมีการนำศพสามีเคลื่อนย้ายมาทำพิธีที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยหรือไม่ นางบุญชูตอบว่าไม่แน่ ทั้งนี้หลังจากที่ได้พูดคุยกับนายกฯในวันนี้แล้วรู้สึกสบายใจขึ้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.สุรยุทธ์ได้สั่งการให้ นายพระนาย สุวรรณรัฐ ผวจ.นนทบุรี และว่าที่รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ช่วยดูแลและให้ความช่วยเหลือนางบุญชู พร้อมกันนี้ นายกฯยังได้มอบเงินช่วยเหลือจำนวน 20,000 บาทด้วย

ไทยรักไทยส่งพวงหรีดเคารพศพ

ทางด้านบรรยากาศงานศพของนายนวมทอง ที่วัดบัวขวัญ นนทบุรี มีผู้มาร่วมฟังสวดพระอภิธรรมประมาณ 200 คน ส่วนใหญ่เป็นสมาชิกชมรมแท็กซี่เอื้ออาทร และองค์กรประชาธิปไตย โดยมีตัวแทนจากพรรคไทยรักไทยนำพวงหรีดมาเคารพศพ นอกจากนี้ นายพระนาย สุวรรณรัฐ ผวจ.นนทบุรี ว่าที่ ผอ.ศอ.บต. ได้มอบเงินช่วยเหลือครอบครัวไพรวัลย์ในนามของ จ.นนทบุรี จำนวน 30,000 บาท โดยระบุว่านายกฯ ได้สั่งให้เข้ามาดูแลจัดการงานศพให้เรียบร้อย ส่วนชมรมผู้ประกอบแท็กซี่มิเตอร์ไทยได้ร่วมมอบเงิน 10,000 บาท และจะมอบรายได้ของชมรมเดือนละ 3,000 บาทเป็นเวลา 5 ปี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนเริ่มสวดพระอภิธรรม นางบุญชูได้อ่านจดหมายที่นายนวมทองได้เขียนไว้ก่อนตาย พออ่านจบคนร่วมงานได้ตะโกนพร้อมๆกันว่า เผด็จการออกไปๆๆ จน นพ.เหวง โตจิราการ ประธานสมาพันธ์ประชาธิปไตย ที่มาร่วมงานต้องขอร้องให้อยู่ในความสงบ

นางบุญชูกล่าวว่า นายกฯจะดูแลงานศพเต็มที่ และให้เงินมา 2 หมื่นบาท ส่วนบ้านที่ถนนติวานนท์ที่ติดจำนองอยู่ 1 แสนบาท ที่นายนวมทองเกรงว่าจะถูกยึด นายกฯก็รับปากจะไถ่ถอน พร้อมบอกว่ามีอะไรติดต่อไปได้โดยตรง หลังจากเสร็จสิ้นงานศพจะรวบรวมเงินจัดตั้งมูลนิธิวีรชนนวมทอง ไพรวัลย์ โดยจะสวดพระอภิธรรม 7 วัน จากนั้นเก็บศพระยะหนึ่ง ยังไม่กำหนดวันฌาปนกิจ

ม็อบต้าน คมช.ยังชุมนุมตามปกติ

ค่ำวันเดียวกัน ที่ท้องสนามหลวง ได้มีการชุมนุมของกลุ่มต่อต้านการรัฐประหาร นำโดยนายนพรุจ วรชิต-วุฒิกุล ผู้ประสานงานกลุ่มพิราบขาว 2006 ได้มาเปิดเวที โดยใช้เก้าอี้และโทรโข่งกล่าวโจมตีการทำงานของ คมช. พร้อมเรียกร้องให้ยกเลิกการประกาศกฎอัยการศึก และคืนอำนาจให้กับประชาชน โดยมีประชาชนที่สัญจรผ่านไปมาประมาณ 100 คนร่วมรับฟัง ท่ามกลางเจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาลและฝ่ายข่าวกรองคอยดูแลอยู่เป็นจำนวนมาก ขณะเดียวกัน กลุ่มผู้ชุมนุมยังเปิดรับบริจาคเงินเพื่อนำไปจัดหาซื้อเครื่องเสียงมาใช้ในการเคลื่อนไหวอีกด้วย

เช้าวันเดียวกัน พล.อ.สนธิ บุญยะรัตกลิน ผบ.ทบ. และประธาน คมช. กล่าวว่า เรื่องที่มีกลุ่มคนออกมาเคลื่อนไหว ภายหลังที่นายนวมทองผูกคอตายเพื่อต่อต้านการยึดอำนาจของ คมช. เรื่องนี้ต้องดูกันต่อไป คมช.กำลังติดตามอยู่ เมื่อถามว่า เป็นห่วงสถานการณ์หรือไม่ พล.อ. สนธิตอบว่า ย่อมเป็นห่วงบ้านเป็นห่วงเมืองอยู่แล้ว ผู้สื่อข่าวถามว่า คมช.ชี้แจงเหตุผลการเข้าปฏิรูปฯ ช้าเกินไปหรือไม่ พล.อ.สนธิตอบว่า ก็อย่างที่ประชาชนได้เคยปรารภให้ฟังว่าดีใจที่ได้ปฏิรูปฯ แต่มันก็น่าจะช้าไปในการชี้แจง ส่วนที่มีคนเริ่มออกมาเคลื่อนไหวต่อต้าน คมช.มากขึ้น ก็เป็นปกติของสังคมประชาธิปไตย สิ่งที่เราจะทำต่อไปคือกำลังจะหาข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริงอีกเล็กน้อย ขณะนี้กำลังติดตามดูความเคลื่อนไหวในพื้นที่ต่างจังหวัดอยู่ แต่ยังไม่ยืนยันว่าจะมีการชุมนุมเกิดขึ้นหรือไม่ แต่เราเฝ้าระวังและประกบทุกพื้นที่ จึงไม่ค่อยห่วงเท่าใดนัก คิดว่าน่าจะมีความเคลื่อนไหวในหลายจังหวัด

พล.อ.บุญรอด สมทัศน์ รมว.กลาโหม กล่าวว่า ขณะนี้ยังพูดไม่ได้ แต่คิดว่า คมช.คงจะรับมือสถานการณ์ได้

ปชป.จี้ คมช.เร่งชี้แจงเหตุผลปฏิรูปฯ

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เราไม่อยากเห็นการสูญเสียอย่างนี้ เพราะทุกชีวิต มีค่า แต่สิ่งที่เกิดขึ้นควรจะเป็นข้อคิดข้อเตือนใจ ให้กับรัฐบาล และ คมช.ว่า จำเป็นที่จะต้องชี้แจงอธิบายเหตุผล สถานการณ์ที่มาที่ไปจะต้องทำมากขึ้น และต้องแสดงเจตนาให้ชัดเจนว่า กำลังจะคืนอำนาจให้กับประชาชนอย่างไร เพราะจะมีคนที่มีจุดยืนไม่เห็นด้วยกับปฏิรูปการปกครองฯด้วยความบริสุทธิ์ใจอีกจำนวนไม่น้อย ขณะเดียวกันเราก็หวังว่าเหตุการณ์ในครั้งนี้ จะไม่นำไปสู่ปัญหาการเผชิญหน้าหรือความวุ่นวาย ทั้งหมดก็ย้อนกลับมาสู่ประเด็นหลักว่า แนวทางการคืนอำนาจให้ประชาชน แนวทางในเรื่องการจำกัดสิทธิเสรีภาพควรเป็นอย่างไร การชี้แจงเรื่องราวที่ผ่านมาว่าเป็นมาอย่างไร และการแสดงความชัดเจนว่า กำลังจะนำพาประเทศกลับคืนสู่ความปกติด้วยความรวดเร็วอย่างไร ขณะเดียวกัน คือการเปิดพื้นที่ให้กับคนที่มีความบริสุทธิ์ใจ ได้แสดงออกในแง่ของการวิพากษ์วิจารณ์ ก็จะเป็นการลดความอึดอัดในสังคม ส่วนคนที่มีเจตนาจะทำให้เกิดความวุ่นวาย ด้วยการใช้ความรุนแรงหรืออะไร ก็ต้องจัดการตามกฎหมาย

แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ