ทนายทักษิณอัดรัฐบาลไทยเป็นรอบที่ 3 ระบุเป็นรัฐบาลที่มีข้อกังขาเรื่องความชอบธรรม และ 2 มาตรฐาน ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับการมีตัวตนของ"กลุ่มติดอาวุธปริศนา" ที่รัฐบาลอ้างเป็นต้นเหตุการบาดเจ็บล้มตายของผู้บริสุทธิ์...
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 20 มิ. ย.ว่า โรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม
ทนายความชื่อดังชาวแคนาดาออกโรงอัดรัฐบาลไทยภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นครั้งที่ 3 ในช่วงเวลาไม่ถึงสองสัปดาห์ โดยคราวนี้ระบุ ทางการไทยทำผิดพลาดอย่างร้ายแรงที่ไปกล่าวหากลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ "กลุ่มคนเสื้อแดง" ว่าเป็นพวกที่พยายามก่อการล้มล้างรัฐบาลอภิสิทธิ์ซึ่งเป็นรัฐบาลที่มีความ "ชอบธรรม"
อัมสเตอร์ดัม ชี้ว่า ในความเป็นจริงแล้วรัฐบาลชุดปัจจุบันของไทยนั้นยังมีข้อกังขาถึงเรื่องความชอบธรรมอยู่
เนื่องจากรัฐบาลของอภิสิทธิ์ได้อำนาจสืบทอดมาจากผลงานการทำรัฐประหารโค่นล้ม "รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง" ของประชาชนส่วนใหญ่ อีกทั้งรัฐบาลอภิสิทธิ์ยังมีพฤติกรรมหลายประการที่เข้าข่ายการดำเนินการแบบ "2 มาตรฐาน" อย่างชัดเจน โดยเฉพาะการเดินหน้ากระบวนการทางกฎหมายกับกลุ่ม "คนเสื้อเหลิือง" ที่เคยบุกยึดทำเนียบรัฐบาลและสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิในช่วงก่อนหน้านี้ แต่คดีความของคนกลุ่มนี้กลับยังไม่มีความคืบหน้า
ทนายความชื่อดังเจ้าของสำนักงานกฎหมายระดับโลก "อัมสเตอร์ดัม แอนด์ พีร็อฟฟ์"
ยังตั้งข้อสังเกตว่าในช่วงที่ผ่านมาดูเหมือนทางการไทยได้พูดถึง "กลุ่มติดอาวุธปริศนา" ว่าเป็น "ต้นเหตุสำคัญ" ที่ทำให้เกิดการสูญเสียชีวิตและการบาดเจ็บของกลุ่มผู้ประท้วงและเจ้าหน้าที่จำนวนมาก ตลอดระยะเวลา 2 เดือนที่ผ่านมาอยู่บ่อยครั้ง แต่ทางการไทยกลับแทบไม่มีหลักฐานใดๆ ที่บ่งชี้ได้ว่า "กลุ่มติดอาวุธ" ที่ว่านี้เป็นใครและมีตัวตนอยู่จริงหรือไม่ รวมถึง ยังไม่ปรากฏว่ามีการจับกุมคนเหล่านี้มารับโทษตามกฎหมายได้แต่อย่างใด ทั้งๆ ที่รัฐบาลไทยประกาศมาโดยตลอดว่า "กลุ่มติดอาวุธ" มีจำนวน "หลายร้อยคน"
อัมสเตอร์ดัมซึ่งรับเป็นที่ปรึกษากฎหมายให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีของไทย และกลุ่มคนเสื้อแดง
ยังระบุว่า การโยนความผิดให้กับกลุ่มติดอาวุธที่ดูเหมือนจะไม่มีตัวตนของทางการไทยนั้น ไม่สามารถตอบโจทย์และอธิบายต่อประชาคมโลกถึงการที่มีผู้เสียชีวิตที่เป็นพลเรือนไร้อาวุธจำนวนมาก ซึ่งถูกสังหารโดยตำรวจและทหารของไทย รวมถึงเหตุสะเทือนขวัญที่มีการยิงผู้บริสุทธิ์และผู้สื่อข่าวอีกหลายรายที่เข้าไปหลบภัยในวัดปทุมวนาราม โดยเฉพาะกรณีของ "พยาบาล เค." ( นามสมมุติ) ซึ่งมีพยานยืนยันว่าเธอถูกยิงถึง 3 นัดซ้อนด้วย "กระสุนความเร็วสูง" ขณะพยายามเข้าไปช่วยชายคนหนึ่งที่ได้รับบาดเจ็บภายในบริเวณวัดดังกล่าว
ในตอนท้ายของการตอบโต้ครั้งล่าสุดของอัมสเตอร์ดัมครั้งนี้ซึ่งกระทำผ่านเว็บไซต์ส่วนตัว
ยังมีการระบุว่า รัฐบาลอภิสิทธิ์กำลังพยายามในการใช้ภาษาหรือถ้อยคำที่สละสลวยและมีการพูดถึงเรื่องการไกล่เกลี่ยปรองดองอยู่บ่อยครั้งในระยะหลัง เพื่อปกปิดการก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติของตนในช่วงที่่ผ่านมา.