เพื่อไทยจี้ ป.ป.ช.เร่งรัคคดี นายกฯส่งเอสเอ็มเอส

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน ว่า จากการที่ตนพร้อมคณะทำงานฝ่ายกฎหมายของพรรคเพื่อไทย จะไปยื่นหนังสือทวงถามต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ( ป.ป.ช.) เพื่อขอให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. เร่งรัดการพิจารณาในการไต่สวนและดำเนินคดีที่มีความสำคัญ และใกล้หมดอายุความ จำนวน 5 เรื่องดังนี้

1. คดีร้องขอให้ถอดถอนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี กรณีขอให้บริษัทเอกชนที่ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ส่งข้อความสั้น( SMS ) จากนายกรัฐมนตรีไปยังประชาชน โดยเป็นบริการที่ให้ฟรี

2.คดีที่มีการกล่าวหาคณะกรรมการองค์การเพื่อปฏิรูประบบสถาบันการเงิน (ปรส.) และนายธารินทร์ นิมมานเหมินทร์ อดีตรมว.คลังกับพวก เกี่ยวกับการขายทรัพย์สินของสถาบันการเงินในราคาถูก ซึ่งมีมูลค่าความเสียหายกว่า 200,000 ล้านบาท
 
3.คดีที่มีการกล่าวหาเจ้าหน้าที่ของรัฐร่วมกับเอกชนกระทำการออกเอกสารสิทธิ น.ส.3 และ น.ส.3 ก โดยมิชอบด้วยกฎหมายทับที่สาธารณประโยชน์ ทำเลเลี้ยงสัตว์โคกเขากระโดง จ.บุรีรัมย์

4.คดีที่มีการกล่าวหาคุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ซึ่งเป็นข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการทุจริต

5.คดีที่มีการกล่าวหา นายจุรินทร์ ลักษณะวิศิษฐ์ อดีตรมว.พาณิชย์ เกี่ยวกับการทุจริตโครงการยางพารา

ต่อมา คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้ออกแถลงการณ์ถึงความคืบหน้าในการดำเนินคดีเหล่านั้นว่ามีบางคดีที่สามารถสรุปและนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.เพื่อมีมติได้ภายในเดือนม.ค. 53 และต่อมาก็ไม่มีความคืบหน้าของคดี จนตนและคณะทำงานฝ่ายกฎหมายได้ไปยื่นหนังสือทวงถามเป็นครั้งที่ 2 ทางคณะกรรมการป.ป.ช. ก็ให้ข่าวว่าจะเร่งดำเนินการคดีต่างๆให้แล้วเสร็จภายในเดือน มี.ค. 53 แต่สุดท้ายจนถึงปัจจุบัน เรื่องทั้งหมดกลับเงียบหาย จนมาถึงเดือน มิ.ย.

โดยเฉพาะคดีการส่งข้อความสั้น (SMS) นั้น ข้อเท็จจริงเป็นที่ยุติแล้ว จากการที่นายกรณ์ จาติกวนิช รมว.คลัง ได้ออกมายอมรับกลางสภาว่า มีการส่ง SMS จริง โดยไม่ได้จ่ายค่าบริการ ดังนั้นจึงถือว่าการได้รับบริการฟรีนั้นถือเป็นประโยชน์อื่นใดตามความหมายของประกาศคณะกรรมการ ป.ป.ช. เรื่องหลักเกณฑ์การรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดโดยธรรมจรรยาของเจ้าหน้าที่รัฐ พ.ศ. 2543 ข้อ 3 จึงเป็นการฝ่าฝืน มาตรา 103 แห่ง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 ตนจึงขอให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. อย่ายื้อเวลาอีกเป็นอันขาดเพราะอาจต้องถูกดำเนินคดีตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 249 และใน 2 1 มิ.ย.53ในเวลา 10.00 น.ตนพร้อมคณะทำงานฝ่ายกฎหมายของพรรคเพื่อไทย จะไปยื่นหนังสือทวงถามต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. อีกครั้ง