เอ็นจีโอ จวก เสธ.หนั่น บิดเบือนข้อมูล หวังใช้อ้างความชอบธรรม เดินหน้าสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น ยืนยัน ในพื้นที่ยังคงมีไร่ไม้สักทอง อุดมสมบูรณ์ ...
นายหาญณรงค์ เยาวเลิศ ประธานมูลนิธิเพื่อการจัดการน้ำแบบบูรณาการ(ประเทศไทย) เปิดเผยว่า
หลังจาก พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรีนั่งเฮลิคอปเตอร์ ไปตรวจสถานการณ์น้ำแล้ง จ.แพร่ และบอกว่า จำเป็นต้องมีเขื่อนแก่งเสือเต้น เพราะเวลานี้ไม่มีไม้สักทองอีกต่อไป เพราะที่ตัดต้นไม้ก็คือคนที่ค้านการสร้างเขื่อน นั้น เป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริงอย่างรุนแรง เพราะเวลานี้เป็นฤดูแล้ง ที่ไม้สักอยู่ระหว่างการผลัดใบ ไม่ใช่ยืนต้นตายอย่างที่ พล.ต.สนั่นเข้าใจ
“กรณีแก่งเสือเต้นมักจะถูกหยิบยกขึ้นมาอ้างเพื่อแก้ปัญหาทั้งน้ำท่วมและน้ำแล้งทุกรัฐบาล ซึ่ง ครั้งนี้ก็เช่นกันได้ยกเอาสถานการณ์ภัยแล้งขึ้นมาเป็นข้ออ้าง โดยใช้เหตุผลเดิมๆ และกี่ปีๆที่ผ่านมาเหตุผลของทุกรัฐบาลที่นำมาอ้างเพื่อสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้นก็ไม่เคยเปลี่ยน” นายหาญณรงค์ กล่าว
นายหาญณรงค์ กล่าวว่า กรณีที่ชาวบ้านอนุญาตให้บริษัทที่ปรึกษาเข้าไปศึกษาความเหมาะสมและความเป็นไปได้ของโครงการแก่งเสือเต้น ก็ไม่ได้หมายความว่าชาวบ้านจะยอมรับ
ที่สำคัญคือโครงการแก่งเสือเต้นเป็นโครงการที่เข้าข่ายกิจกรรมรุนแรง ตามมาตรา 67 วรรคสอง ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 เพราะจะทำให้ต้องสูญเสียต้นไม้ในอุทยานแห่งชาติแม่ยมไปกว่า 40,000 ไร่ มีพื้นที่น้ำท่วมประมาณ 100 ตารางกิโลเมตร และพื้นที่ชลประทานประมาณ 8,000 ไร่ เมื่อเข้าข่ายโครงการรุนแรงจะต้องทำรายงานผลกระทบด้านสุขภาพ(เอชไอเอ) รายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม(อีไอเอ)
แหล่งข่าวจากกรมชลประทานกล่าวว่า มีการศึกษาตั้งแต่ปี 2550 เพื่อหาแนวทางจัดการลุ่มน้ำยม โดยบริษัทที่ปรึกษาเสนอว่า เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบที่จะเกิดกับชาวบ้าน จึงเสนอสร้าง 2 เขื่อน คือ เขื่อนแม่น้ำยม และเขื่อนแม่น้ำยมตอนบน
ทั้งสองเขื่อนจะมีการกักเก็บน้ำประมาณ 754 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยลดพื้นที่ผลกระทบเดิมจาก 41,570 เหลือ ประมาณ 3 หมื่นกว่าไร่เท่านั้น
และพื้นที่ที่อพยพโยกย้ายจะลดลง โดยเฉพาะที่แม่น้ำยมตอนบนที่จะมีผลกระทบ 23,400 เป็นพื้นที่การเกษตร 2,080 ไร่และพื้นที่ป่าประมาณ 17,900 โดยแบ่งเป็น ป่าสักหนาแน่นประมาณ 2,800 ไร่ ป่าเบญจพรรณ 21,000 ไร่ นอกจากนี้ เพื่อที่จะมีการพัฒนาแม่น้ำยมอย่างเป็นระบบ ยังมีการสร้างแหล่งน้ำขนาดกลางอีก 57 แห่ง ความจุ 572 ล้านลูกบาศก์เมตร การจัดการน้ำทั้งระบบของลุ่มน้ำยมจะมีประชากรประมาณ 1.7 ล้าน คนหรือประมาณ 4 แสน ครอบครัวได้รับประโยชน์
แต่การพัฒนาโครงการขนาดกลางของลุ่มน้ำยมต้องมีการเวนคืนพื้นที่ประมาณ 8 หมื่นไร่ จึงต้องทำความเข้าใจกับประชาชนอีกระยะหนึ่ง
ทั้งนี้การศึกษาความเป็นไปได้คาดว่าจะเสร็จประมาณต้นปี 2554 หลังจากนั้นจะเสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ และเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่ออนุมัติต่อไป หากการพิจารณาของคณะกรรมการชุดแรกผ่าน
รุมจวกเสธ.หนั่น NGOต้าน เขื่อนแก่งเสื้อเต้น
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวการเมือง รุมจวกเสธ.หนั่น NGOต้าน เขื่อนแก่งเสื้อเต้น
เครดิต : ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!


กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
























กระทู้ล่าสุด


รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้

















































Love illusion ความรักลวงตา เพลงที่เข้ากับสังคมonline
Love illusion Version 2คนฟังเยอะ จนต้องมี Version2กันทีเดียว
Smiling to your birthday เพลงเพราะๆ ไว้ส่งอวยพรวันเกิด หรือร้องแทน happybirthday