ท้าเครือข่าย”แม้ว”โชว์ใบเสร็จเงินจ่ายหนี้

ท้า “นพดล” โชว์ใบเสร็จ “เครือข่ายแม้ว” ใช้เงินจ่ายหนี้ แฉเงินในบัญชี ส.ส. ผิดปกติหมุนเวียนสูงถึง 30 ล้าน
 
ที่พรรคประชาธิปัตย์  เมื่อวันที่ 17 มิ.ย. นายเทพไท  เสนพงศ์  โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์  กล่าวถึงข่าวการอายัดการทำธุรกรรมการเงิน 86 บัญชี ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มคนเสื้อแดง  ว่า พรรคประชาธิปัตย์สนับสนุนให้ดำเนินการในเรื่องนี้ให้เกิดความกระจ่างชัด เพราะได้มีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงท่อน้ำเลี้ยงของกลุ่มต่างๆจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร  อดีตนายกฯ  มายังกลุ่มผู้ชุมนุม  ซึ่งเมื่อดูรายละเอียดของบัญชีก็พบว่า มีแบ่งออกเป็นกลุ่มต่างๆ 5 กลุ่ม แต่ที่น่าสนใจคือกลุ่มที่เป็นนักการเมือง และ ส.ส.ซึ่งบางคนต้องยอมรับว่ามีสถานะที่ไม่น่าเชื่อว่าจะมีกระแสเงินหมุนเวียน นับเป็นสิบๆ ล้านบาท เพราะอยู่ในฐานะที่เป็น ส.ส. ธรรมดา หากดูจากประวัติ และภูมิหลัง อาจจะเข้าใจว่ามีการกลั่นแกล้งคนเหล่านี้ แต่เมื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างละเอียดว่ากระแสเงินไหลเวียนผ่านบุคคลเหล่านี้จริงในรอบบัญชีเป็นจำนวน 20-30 ล้าน และมีการเบิกทันที หรือภายใน 3 วันบ้าง และไม่สามารถอธิบายได้ว่าที่มาของเงินเหล่านั้นมาจากไหน

“ เงินที่เข้าบัญชี ส.ส.เหล่านี้ที่ไม่มีประวัติเป็นนักธุรกิจ  หรือทำธุรกิจมาก่อน ตนเข้าใจว่าเป็นการโอนเงินเพื่อไปจัดการเรื่องม็อบ บริหารจัดการการชุมนุม การขนคนเสื้อแดงมาชุมนุม จึงทำให้เห็นว่ามีการเบิกถอนเงินในเวลารวดเร็ว  และเหลือเงินค้างในบัญชีบ้างในจำนวนหนึ่ง  ซึ่งสันนิษฐานได้ว่าน่าจะเป็นค่าหัวคิวที่เก็บไว้ในบัญชี ซึ่งยอดเงินที่ปรากฎตามข่าวก็เป็นจำนวนนับ 1 แสนล้านบาท จึงอยากให้บุคคลที่เกี่ยวข้อง หรือเชื่อว่าตัวเองมีความบริสุทธิ์ใจ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง ออกมาแสดงหลักฐานให้ชัดเจน”นายเทพไทกล่าว

นายเทพไทย กล่าวต่อว่าส่วนที่ นายนพดล  ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ  ออกมาแก้ต่างว่า เป็นเรื่องการเบิกเงินเพื่อไปใช้หนี้ หรือไปทำธุรกิจ ตนคิดว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเหลือบ่ากว่าแรง ที่จะนำพยานหลักฐาน หรือใบเสร็จในการชำระหนี้ของบุคคลเหล่านี้มายืนยันกับเจ้าหน้าที่ได้  ถ้ามีเอกสารยืนยันเชื่อถือว่าเจ้าหน้าที่ก็ต้องปล่อยไป แต่บางเรื่องไม่มีที่มาที่ไปที่ชัดเจนไม่สามารถอธิบายต่อสังคมได้จริงๆ เช่นในรายละเอียดพบว่าช่วงวันที่ 1 -17 พ.ค.ที่ผ่านมา เป็นช่วงที่มีการชุมนุมของกลุ่มนปช.อย่างร้อนแรง มีกระแสเงินเคลื่อนไหวในบัญชีสูงถึง 7 พันล้านบาท  จึงเป็นที่น่าสังเกตว่า มีเหตุผลใดจึงต้องมีการชำระหนี้หรือต้องใช้จ่ายเงินทางธุรกิจจำนวนมากถึง 7 พันล้านบาท ในห้วงเวลาประจวบเหมาะกับการชุมนุมของคนเสื้อแดง ตรงนี้คิดว่าบุคคลที่เกี่ยวข้องและถูกกล่าวหาจะต้องไปชี้แจง