นพดลขอบคุณศอฉ.ให้ญาติแม้วแจง

ด้านนายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษา พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวถึงกรณีคนใกล้ชิด พ.ต.ท.ทักษิณ ถูก ศอฉ.ห้ามทำธุรกรรมว่า ต้องรอดูว่าบุคคลที่ ศอฉ.ระบุถึงมีใครบ้าง

เพื่อให้บุคคลเหล่านั้นมีโอกาสได้ชี้แจงข้อเท็จจริงว่านำเงินมาจากไหน และถอนไปทำอะไร ตนต้องขอบคุณทาง ศอฉ.ที่ยังให้โอกาสบุคคลเหล่านั้นได้ชี้แจง แต่ขอความกรุณา ศอฉ.สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) อย่าให้ข่าวที่จะสร้างความเสียหายให้กับบุคคลที่เกี่ยวข้อง เพราะอาจทำให้สังคมเข้าใจคลาดเคลื่อนได้ ทั้งนี้หากมีการพาดพิงไปถึง พ.ต.ท.ทักษิณ ทาง พ.ต.ท.ทักษิณจะต้องชี้แจงผ่านการแต่งตั้งทีมทนายหรือทำหนังสือ เพราะที่ผ่านมาไม่เคยให้การสนับสนุนการก่อการร้ายด้วยการส่งเงิน

"เชื่อว่าหากมีการเปิดเผยรายชื่อเครือญาติหรือคนใกล้ชิด พ.ต.ท.ทักษิณ ตามที่ ศอฉ.กล่าวอ้างออกมา ผมมั่นใจว่าบุคคลเหล่านั้นจะสามารถชี้แจงได้ โดยเฉพาะประเด็นที่ 2-3 ปีที่ผ่านมา ที่ พ.ต.ท.ทักษิณถูกอายัดทรัพย์สินจำนวน 7 หมื่นล้าน ทำให้บริษัทต่างๆ ในเครือต้องไปกู้หนี้ยืมสินมา ดังนั้น การที่เขาเบิกเงินไปจำนวนมากอาจจะเป็นการนำไปจ่ายหนี้สินที่กู้มาในระหว่างที่ทรัพย์สินถูกอายัด เรื่องนี้จึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร"นายนพดลกล่าว

นายนพดลกล่าวถึงกรณีที่นายสัก กอแสงเรือง นายกสภาทนายความ เข้าพบนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)

เสนอให้รวม 5 คดีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้แก่ คดีที่ดินรัชดาฯ คดีกล้ายาง คดีหวยบนดิน คดีเอ็กซิมแบงก์ และคดีก่อการร้าย จนนำไปสู่การที่ ศอฉ.รวมคดีทั้ง 5 เข้าด้วยกันและมอบหมายให้ 4 หน่วยงาน คือดีเอสไอ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงการต่างประเทศ และสำนักงานอัยการสูงสุด เป็นผู้ดำเนินการติดตามตัว พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมาดำเนินคดี ว่า ยังนึกไม่ออกว่าจะรวมกันอย่างไร เพราะคดีแต่ละคดีมีความผิดแตกต่างกัน และระดับการพิจารณาก็แตกต่างกัน บางคดีศาลตัดสินไปแล้ว แต่บางคดียังอยู่ในระหว่างการพิจารณา ตนแปลกใจที่นายสัก ซึ่งเป็นบุคคลที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เคยยื่นคัดค้านในการดำรงตำแหน่งคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) เพราะมีทรรศนะเป็นปฏิปักษ์กับ พ.ต.ท.ทักษิณนั้น แม้วันนี้นายสักได้พ้นจาก คตส.แล้ว และมาเป็นนายกสภาทนายความ แต่นายสักยังไม่หยุดเสนอแนวทางไล่ล่า พ.ต.ท.ทักษิณ

"ไม่อยากให้นายสักในสถานะความเป็นนายกสภาทนายความเข้าไปเกี่ยวข้อง เพราะสภาทนายความถือเป็นองค์กรที่ดูแลทนายความ ซึ่งมีสมาชิกของสภาทนายความหลายคนทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษากฎหมายให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ หากการรวมคดีที่เกิดขึ้นจริง พ.ต.ท.ทักษิณก็จะต้องชี้แจงต่อสังคมต่างประเทศ โดยยึดหลักในการต่อสู้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณไม่เกี่ยวข้องกับคดีก่อการร้าย และคดีทั้งหมดเป็นคดีทางการเมืองที่เกิดขึ้นหลังการยึดอำนาจ" นายนพดลกล่าว