ที่รัฐสภา เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร
กล่าวถึงกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี สั่งระงับไม่ให้หน่วยงานราชการเดินทางไปต่างประเทศ เพราะนโยบายรัฐบาลต้องการให้ท่องเที่ยวไทยซึ่งจะลดภาษีให้ด้วย ว่า ตนพยายามใช้วิธีการหลายทางเกี่ยวกับการตรวจสอบการเดินทางไปต่างประเทศของคณะกรรมาธิการต่าง ๆของสภา แต่ก็โดนมรสุมจากสมาชิกว่า การไปศึกษางานในต่างประเทศก็ได้ประโยชน์ และนำความรู้มาประยุกต์ใช้กับประเทศไทย ซึ่งตนก็พยายามชี้แจงว่าประเทศไทยกำลังประสบปัญหาวิกฤตมีการกู้เงิน และออกพ.ร.ก.กู้เงิน หากไปศึกษาดูงานต่างประเทศทำให้สิ้นเปลื้องและเสียหายด้วย แม้แต่ตนก็ไม่กล้าเดินทางไปต่างประเทศ
อย่างไรก็ดี สำหรับสมาชิกคนอื่นตนก็ไม่สามารถค้านได้ จึงได้ตั้งคณะกรรมการไปศึกษาดูงานขึ้นมา 12 คน
โดยมีรองประธานสภาทั้งสองคนและประธานคณะกรรมาธิการเป็นกรรมการร่วมกันว่าคณะไหนไปและไม่ควรไป ตนก็ไม่รู้จะทำอย่างไร เมื่อส.ส.ต้องการจะไปแล้วจะให้ทำอย่างไรได้ ขณะนี้เดินทางไปแล้วประมาณ 10 คณะ แต่ถ้าหากอยากทราบว่าคณะไหนไปประเทศใดบ้างให้ไปถามรองประธานสภาทั้งสองคน
“ถ้าทำถูกต้องตามขั้นตอน ประธานสภาฯก็ไม่มีอำนาจที่จะระงับ แต่ได้มีการร้องขอ แต่ก็ทำไม่ได้ จึงไม่รู้จะทำอย่างไร และเขาก็ไปเพื่อศึกษาดูงาน โดยใช้งบประมาณปี 53 ซึ่งค่าใช้จ่ายแต่ละคณะก็ประมาณ 2,300,000 บาท บางคณะใช้เหลือไม่ถึง 10 บาท ตนก็ไม่รู้จะทำอย่างไรเป็นอำนาจของคณะกรรมาธิการแต่ละคณะ อย่าไปว่าอะไรเลยปล่อยให้ไปศึกษาดูงานบ้าง เพราะท่านเครียดที่สภามากแล้ว หลังจากไปศึกษาดูงานก็ทำรายงานว่าพบใคร ทำอะไร ได้ประโยชน์อะไรบ้างภายใน 30 วันต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งพบว่า บางคณะไปดูงานแล้วได้ประโยชน์ แต่บางคณะก็ไม่ได้ประโยชน์ แต่พูดไปเดี๋ยวเขาก็มาด่าผมอีก” นายชัย กล่าว