ตั้งทีมศึกษากม. นิรโทรกรรม แนวร่วมเสื้อแดง

กรมสอบสวนคดีพิเศษ ตั้งคณะทำงาน-ประสานความร่วมมือกับคณะกรรมการกฤษฎีกา ศึกษาข้อกฎหมาย ตลอดจนข้อดี ข้อเสียนิรโทษกรรมแนวร่วมกลุ่มเสื้อแดง หวังเดินหน้าห้สอดคล้องกับบรรยากาศเดินหน้าความปรองดองของชาติ....

เมื่อวันที่ 12 มิ.ย.นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวถึงกรณีที่ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน(ศอฉ.) เสนอให้ดีเอสไอพิจารณาออกกฎหมายพิเศษ ยกเลิกการเอาผิดกับแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช.ที่กระทำผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน โดยที่ไม่ได้ถูกตั้งข้อกล่าวหา ในคดีการก่อการร้าย ซึ่งมีโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไปจนถึง 2 ปี

โดยนายธาริต กล่าวว่า ดีเอสไอได้รับมอบให้ศึกษาความเป็นไปได้การออกกฎหมายพิเศษดังกล่าว เพราะหากเป็นผู้ที่กระทำความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จะต้องโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี โดยคนกลุ่มนี้ถือว่า มีจำนวนมากนับหมื่นคน ผู้ที่เข้าร่วมชุมนุม นปช.ถือว่า เป็นผู้ที่กระทำผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทั้งหมด และบางส่วนถูกจับดำเนินคดีไปแล้ว บางส่วนอยู่ระหว่างการฟ้องคดี ดังนั้นต้องมาพิจารณาหากจะมีการยกเลิกความผิดให้กับคนเหล่านี้ โดยดีเอสไอจะตั้งคณะทำงานขึ้นมาชุดหนึ่งและจะมีการประสานความร่วมมือกับคณะกรรมการกฤษฎีกา เพื่อพิจารณาถึงหลักกฎหมายที่เป็นไปได้ ตลอดจนข้อดี ข้อเสีย ที่จะเกิดขึ้นด้วย ทั้งหมดนี้ก็เพื่อให้สอดคล้องกับบรรยากาศเดินหน้าความปรองดองของชาติ

ผู้สื่อข่าวถามว่า ผู้กระทำผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่ถูกลงโทษไปแล้วก่อนหน้านั้น นายธาริต กล่าวว่า หากมีกฎหมายพิเศษออกมาบังคับใช้ ผู้ที่ได้รับโทษตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ก็จะได้รับการปล่อยตัวทันที เพราะกฎหมายนี้ถือเป็นกฎหมายที่ต้องการยกเลิกโทษให้กับประชาชนที่เพียงแค่เข้าร่วมการชุมนุมแต่ไม่ได้ก่อเหตุร้ายแรง

เมื่อถามถึงกรณีที่การ์ด นปช.ถูก ฆ่าเสียชีวิตไปแล้ว 2 ราย ในระยะเวลาไล่เลี่ยกันประกอบกับกระแสกดดันบางฝ่ายที่มองว่าเป็นการตามไล่ ล่าเอาชีวิตผู้เกี่ยวข้องที่เข้าร่วมชุมนุม นปช. ดีเอสไอจะต้องรับคดีดังกล่าวเข้าเป็นคดีพิเศษ ตามมติคณะกรรมการคดีพิเศษ(กคพ.) ก่อนหน้านี้หรือไม่ นายธาริต กล่าวว่า กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าคดีทั้ง 2 เกี่ยวข้องกับการชุมนุมจริงหรือเป็นเรื่องส่วนตัว หากเป็นเรื่องส่วนตัวก็ต้องว่ากันไปตามคดีอาญาปกติ อย่างไรก็ตาม การจะรับเป็นคดีพิเศษหรือไม่ต้องดูที่ข้อเท็จจริงซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ ระหว่างดำเนินการสอบสวน.