ธาริตยอมรับมีขบวนการดิสเครดิตดีเอสไอ

"ธาริต"ยอมรับมีขบวนการดิสเครดิตการทำงานของดีเอสไอ แฉอดีตผู้บริหารตั้งวอร์รูมอุ้ม นปช. พบพิรุธคดี 258 ล้าน ไม่สอบต้นทาง TPI

ส่วนเรื่องแตงโม มะเขือเทศ ยอมรับว่ามี เพราะความเห็นที่แตกต่างทางการเมือง เกิดขึ้นได้แต่งานวิชาชีพ อย่าเอาเรื่องส่วนตัวมาทำให้เกิดความเสียหาย 4-5% ที่มีก็ต้องออกมาพูดเพื่อหยุดยั้งไม่ให้เกิดความขัดแย้งและแยกออกมา

นายธาริต ยังกล่าวว่า มีอดีตผู้บริหารดีเอสไอ ไปทำวอร์รูมช่วย นปช.ยอมรับว่าพูดจริง DSI ไม่ทำอะไร แต่อยู่ที่ว่า เรื่องวินัย ทางกระทรวงยุติธรรมจะทำอย่างไร เพราะความแตกแยกทางความคิด เกิดขึ้นได้ ทำอะไรออกมาผลมีทั้งชอบและไม่ชอบ ซึ่งไม่มีอะไรดีเท่ากับทำตามกฎหมาย ซึ่งเป็นกติกากลาง เจ้าหน้าที่ดีเอสไอทุกคนที่ตั้งใจทุ่มเททำงานทำตามวิชาชีพของเรา ส่วนตัวที่เป็นความคิดทางการเมืองต้องแยกไว้ได้

นายธาริต กล่าวถึงคดีเงินบริจาคให้พรรคประชาธิปัตย์จำนวน 258 ล้านบาท 

มีกรรมการของทางบริษัทTPI ร้องเรียนเข้ามาให้ตรวจสอบถึง 2 ครั้ง โดยประเด็นร้องเรียนหลักคือ เหตุใดจึงไม่มีการพิสูจน์ความผิดของTPI ในเรื่องไซฟ่อนเงินให้ชัดเจนก่อน มีเงิน 258 ล้านออกจาก TPI จริงหรือไม่ แต่พนักงานสอบสวนกลับนำเรื่องนี้ออกไป และบอกว่าเอาเงินไปให้พรรคประชาธิปัตย์ ทำให้TPIเสียหาย

"ซึ่งตัวผมได้เอาสำนวนมาตรวจดู ก็เห็นว่ามีข้อพิรุธว่า ทำไมการสอบสวนจึงไม่ดำเนินคดีข้อหาหลัก ว่าเงิน258ล้านของTPIได้มาโดยถูกต้องหรือเปล่า แล้วค่อยสอบว่าพรรคประชาธิปัตย์รับเงินหรือไม่อย่างไร เพราะมันเป็นคดีหลักที่จะส่งผลมาถึงคดีรอง ตามหลักต้องพิสูจน์คดีหลักก่อน เพราะถ้าหากคดีหลักฟังไม่ได้ว่านำเงินออกมา คดีรองจะเป็นอย่างไร และอีกเรื่องคือมีหลักฐานที่หลุดไปสู่บุคคลภายนอก ก็เป็นเรื่องจริง"

นอกจากนี้ นายธาริต ยังยอมรับว่า คดีไม่มีความคืบหน้า แต่ไม่เป็นไร เมื่อพนักงานสอบชุดเก่าออกไปแล้ว ก็จะให้ชุดใหม่เดินหน้าโดยเร็ว

"พอตอนนี้มีการร้องเรียนมา 2 ครั้ง พนักงานที่สอบสวนก็ขอถอนตัว เมื่อวัน 2 วัน มีข่าวว่าผมเรียกสำนวนมาตรวจสอบจึงขอถอนตัว มันก็ไม่สมเหตุผล และไม่เป็นความจริง โดบพนักงานสอบสวนที่ถอนตัวให้เหตุผลว่า เนื่องจากมีการร้องเรียนและขอเปลี่ยนตัวพนง.สอบสวน จึงขอถอนตัว"นายธาริตกล่าว

"ผมยืนยันไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด ผมรับราชการมานาน ข้าราชการประจำต้องทำหน้าที่ การเมืองเดี๋ยวมาเดี๋ยวไป ซึ่งเรารับกติกากันให้การเมืองโยกย้ายข้าราชประจำได้ แต่ยืนยันทุกรัฐบาลทุกสมัยไม่ว่า อดีตนายกฯ ทักษิณ หรืออดีตนายกฯสมชาย ผมก็ก้าวหน้าในวิชาชีพ เพราะยึดมั่นทำงานในฐานะหน่วยบังคับใช้กฎหมาย ทำตามอาชีพ ยืนยันรักชอบการเมืองเป็นเรื่องส่วนตัว"