คมชัดลึก : “รมต.น้องดียว” ยัน “รบ.” ใจกว้างรับฟังข้อเสนอ “แม้ว” เสนอ “แผนปรองดอง” แต่ “คนไทย” มี “60 ล้าน” ต้องฟังทั้งหมด วอน “สื่อ” อย่าจับตาคู่ขัดแย้งก่อน ยอมรับดีใจ “ทุกภาคส่วน” ขานรับ “ตั้งเวที” ทั่วปท. ย้ำ “พื้นที่แดง” ให้ “กำนัน-ผญบ.” แจงแผน
(10 มิ.ย) นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
ให้สัมภาษณ์ภายหลัง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เรียกประชุมภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อร่วมกัน เพื่อขับเคลื่อนแผนปรองดองและการปฏิรูปประเทศไทย ซึ่งไม่มีฝ่ายตรงข้ามมาเข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ว่า อย่าไปเริ่มตั้งประเด็นอย่างนั้น วันนี้ตนมองว่าสังคมไทยเราต้องการก้าวข้ามความวิกฤตและขัดแย้ง แต่ถ้าเราเริ่มต้นจากว่าคนที่มาเป็นฝ่ายไหน มันก็ทำอะไรไม่ได้ ตนว่าภาพวันนี้ตั้งแต่ทำบุญประเทศมาแล้ว มันเป็นภาพของการใฝ่หาสันติและการก้าวข้ามความขัดแย้ง วันนี้ถ้าเราฟังภาคธุรกิจที่มาก็คือสมาคมธุรกิจทั้งทุกภาคส่วน ทั้งหอการค้าสภาอุตสาหกรรมทั้งหมด ภาคของวิชาการ กำนันผู้ใหญ่ นายกสมาคมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมาครบ และสมาคมวิชาชีพสื่อ ตนเห็นว่าอันหนึ่งที่มีจุดร่วมที่ทุกคนพูดเหมือนกัน ว่าเขาอยากเห็นการปรองดองเกิดขึ้นจริง เขาอยากเห็นการปฏิรูปประเทศไทยเกิดขึ้นจริง มันเริ่มต้นจากจุดนี้มันดีแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ผลที่ได้จากการหารือวันนี้จะได้มากน้อยแค่ไหน ในความคาดหวังของรัฐบาล รมต.ประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า เรื่องแผนปรองดอง แผนปฏิรูปประเทศไทย
นายกฯได้แถลงชัดว่า ทุกอย่างต้องเป็นรูปธรรม เป็นแผนปฏิบัติการที่ชัดเจน มีงบประมาณ มีคน มีโครงสร้างภายใน 1 ม.ค.54 เพราะฉะนั้นการพูดคุยวันนี้โจทย์ที่ให้ไป คือว่าด้วยเรื่องการตั้งเวทีเพื่อระดมความคิดในการปฏิรูปประเทศไทย วันนี้ทุกภาคส่วนขานรับพร้อมทำเวทีต่างๆ ซึ่งเขาทำเองอยู่แล้วบางส่วน และบางส่วนเราที่เราเตรียมการเอาไว้คือเราไปร่วมกับเขาด้วย เสร็จจากวันนี้ฝ่ายตนจะไปเชื่อมกับทุกภาคส่วน
นายสาทิตย์ กล่าวว่า ที่มาวันนี้ว่าเวทีเขาจะทำอะไรตรงไหนบ้าง กระบวนการรับฟังความเห็นจะทำประมาณ 2-3 เดือน
ก็คือนับจากกรกฎาคม สิงหาคม กันยายน ส่วนเดือนตุลาคมและพฤศจิกายน จะเป็นการเวิร์กช็อปภายในรัฐบาล หลังจากรับฟังความคิดทั้งหมด นอกเหนือจากเวทีต่างๆแล้ว จะมีช่องทางที่นายกฯพูดถึง เช่น เวทีประชาชน สังคมออนไลน์ โทรศัพท์ สมัชชาทางอากาศที่เราจะจัดขึ้นในอนาคตประมาณเดือนตุลาคมและพฤศจิกายนที่จะทำเวิร์กช็อป โดยเดือนธันวาคมจะร่างแผนขึ้นมา เพื่อประกาศให้ได้ภายในวันที่1ม.ค. สิ่งที่นายกฯพูดต่อก็คือว่าอะไรที่ไปฟังมาแล้วหากทำได้ก็จะทำไปเลยในช่วงระหว่างกระบวนการนั้น
“วันนี้เป็นการเริ่มต้นในการเอา 4 ภาคส่วนหลักๆเข้ามา มันมีข้อเสนอใหม่เข้ามาเยอะ เช่น นักศึกษาที่อยากจะเข้าสู่กระบวนการปฏิรูป หรือแม้ภาคธุรกิจต้องการลดความเหลื่อมล้ำ ผมคิดว่าเป็นทิศทางที่ดีมากเป็นการเริ่มต้นที่มีอนาคต” รมต.ประจำสำนักฯ กล่าว
สาทิตย์ยันรัฐบาลใจกว้างรับฟังข้อเสนอทักษิณ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ข้อเสนอที่โดนใจและเห็นว่ามีความเป็นไปได้ รมต.ประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า ทั้งหมดที่มีการเสนอวันนี้เรามีทีมเลขานุการจดบันทึกไว้
เพื่อกำหนดประเด็นให้ได้ข้อมูลว่าทิศทางการปฏิรูปประเทศ ที่เขาอยากเห็นคืออะไร หลังจากนี้เราจะมีการเพิ่มเติมประเด็นรายละเอียดให้ผู้สื่อข่าวรับทราบว่า แนวที่จะเดินต่อไป ตารางการทำงานเป็นอย่างไรจะเริ่มต้นวันอาทิตย์นี้นายกฯจะไปสันนิบาตเทศบาลก่อน หลังจากนั้นจะมีกำหนดที่จะไปที่ต่างๆ แถลงข่าวเป็นระยะ
ผู้สื่อข่าวถามว่า สำหรับพื้นที่ที่ต่อต้านรัฐบาลอาจจะไม่รับการตอบรับ นายสาทิตย์ กล่าวว่า
นายกฯพูดชัดว่าในหลายพื้นที่คนของรัฐบาลไปทำเองอาจจะมีปัญหาได้ จะมีองค์กรแต่ละภาคส่วนไปช่วยกัน เช่น มหาวิทยาลัย จะมีนักศึกษาลงไป ภาคธุรกิจ โดยเฉพาะกำนันผู้ใหญ่บ้าน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งวันนี้ขานรับแผนเต็มที่ นายกฯพูดชัดว่ารัฐบาลทำฝ่ายเดียวไม่สำเร็จต้องทุกภาคส่วนช่วยกัน 4 ภาคส่วนนี้ขานรับ ถือว่าเดินหน้าได้เยอะ
เมื่อถามว่าจะมีการประเมินหรือไม่หลังจากนี้ นายสาทิตย์ กล่าวว่า คณะทำงานจะมีการประชุมตลอดเวลาในการที่จะสรุปความคิดต่างๆและจะอัพเดรทให้นายกฯรับทราบตลอดเวลา
ผู้สื่อข่าวถามว่า การปรองดองนี้จะรวมถึงการคุยกับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีหรือไม่ รมต.ประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า เราจะมุ่งไปสู่ทุกภาคส่วนของประชาชนก่อน หมายถึงประชาชนในประเทศ จะไปนอกประเทศที่ไหน ผู้สื่อข่าวถามว่า คิดว่าคนที่อยู่นอกประเทศจะรับฟังหรือไม่ นายสาทิตย์ กล่าวว่า ตนคิดว่าเราอย่าไปเริ่มต้นจากการมองฝ่ายที่ขัดแย้งกัน ความจริงฝ่ายที่ขัดแย้งกัน อย่างแผนของนายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษาด้านกฎหมายพ.ต.ท.ทักษิณ ตนคิดว่าเขาก็มีประเด็นของเขา ถ้าเราเดินหน้าเรื่องแผนปรองดอง ก็ต้องเปิดใจกว้างรับฟัง คณะทำงานก็ไม่ได้ปิดในการรับฟัง
“ถ้าหากว่าภาคส่วนของคุณนพดลหรือพ.ต.ท.ทักษิณ มีข้อเสนอแนะในการปฏิรูปประเทศไทยเขาก็มีสิทธิ์ทำได้ แต่เราอย่าลืมว่าเรามี 60 ล้านคน เราต้องฟังทุกคน เราอย่าไปเริ่มต้นจับคู่ความขัดแย้งก่อน จะก้าวข้ามความขัดแย้งต้องมองพ้นความขัดแย้งด้วย” รมต.ประจำสำนักนายกฯ กล่าว